สหรัฐออกกฎหมายคุมนำเข้าสินค้า

สหรัฐออกกฎหมายคุมนำเข้าสินค้า

PIC : From AFP

สหรัฐเตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ควบคุมและป้องกันความปลอดภัยอาหารคนและสัตว์

น.ส.ประนิตา เกิดพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปี 2559 องค์การอาหารและยาของสหรัฐ (เอฟดีเอ) จะออกกฎหมายฉบับใหม่ ชื่อ Food Safety Modernization ACT (FSMA) ซึ่งเป็นกฎหมายว่าด้วยการควบคุมและป้องกันความปลอดภัยอาหารคนและสัตว์ การควบคุมผักผลไม้สด การกำหนดโปรแกรมตรวจสอบผู้ผลิตและส่งออกในต่างประเทศ และผู้ขายวัตถุดิบ

ทั้งนี้ กฎหมายฉบับใหม่นี้เอฟดีเอจะบังคับให้ผู้ผลิตและส่งออกสินค้าอาหารไปสหรัฐต้องจดทะเบียนโรงงานกับเอฟดีเอ และจะต้องต่ออายุทะเบียนทุกๆ 2 ปี ส่วนตัวสินค้าบรรจุแบบ Air tight เช่น เครื่องกระป๋อง จะต้องจดทะเบียน Food Canning Establishment (FCE Number) และยังกำหนดระเบียบฉลากสินค้า ประกอบด้วยข้อมูลสำคัญ 3 ประการ คือ คุณค่าโภชนาการ (Nutrition) แหล่งกำเนิดสินค้าและการแจ้งส่วนผสมอาหาร

“หลังกฎหมายฉบับนี้ออกมาจะมีการตรวจสอบสินค้าอาหาร ซึ่งจะเน้นการตรวจสิ่งแปลกปลอม สิ่งเจือปน สีอาหาร เชื้อแบคทีเรีย การแจ้งข้อมูลบนฉลาก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเตรียมความพร้อมของผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้าอาหาร ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย FSMA ฉบับใหม่ของสหรัฐ ที่เข้มงวดและลงลึกในการตรวจสอบ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าอาหารไทยไปสหรัฐ ดังนั้นผู้ส่งออกต้องปรับตัว” น.ส.ประนิตา กล่าว

น.ส.ประนิตา ระบุว่า สำหรับแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคในสหรัฐ นอกจากจะให้ความสำคัญไม่เพียงประเด็นความปลอดภัยด้านอาหารแล้ว ยังคำนึงถึงที่มาของสินค้าว่าต้องไม่มีการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยพบว่าแม้ไทยจะถูกจัดอับดับสถานะ Tier 2 WL ตามรายงานการค้ามนุษย์ (TIP) แต่ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจเพียงพอให้ผู้นำเข้ารายสำคัญให้หวนกลับมานำเข้าจากไทย หรือเพิ่มการนำเข้าจากไทย

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง วอลมาร์ท ซึ่งเข้ามาตั้งสำนักงานจัดซื้อในประเทศไทยเมื่อ ก.ค.ที่ผ่านมา จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ซื้อในสหรัฐได้ โดยวอลมาร์ทต้องการสร้างความมั่นใจต่อลูกค้าว่าสินค้าที่นำไปขายเป็นไปตามความต้องการผู้บริโภค ซึ่งการตั้งสำนักงานในไทยจะช่วยให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเพื่อการนำเข้าและส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ

“จากที่ประเทศไทยติดบัญชีแดงเป็นผู้ใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับของกระทรวงแรงงานสหรัฐในสินค้า ได้แก่ ปลา กุ้ง เสื้อผ้า อ้อย และสิ่งลามก ซึ่งจะเปิดช่องให้ศุลกากรสหรัฐ สามารถยับยั้งการนำสินค้าดังกล่าวหากมีผู้ร้องเรียนตามกฎหมายการอำนวยความสะดวกการค้าและการบังคับ การค้า (Trade Facilitation and Trade Enforcement Act of2015) และจะส่งผลกระทบต่อการนำเข้าสินค้าดังกล่าวของไทยไปยังสหรัฐ” น.ส.ประนิตา กล่าว

ปัจจุบันตลาดสหรัฐยังมีศักยภาพในการส่งออก ซึ่งปี 2559 กรมตั้งเป้าว่าจะส่งออกมูลค่า 2.42 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐขยายตัว 1.0% และปี 2560 ตั้งเป้าส่งออกมูลค่า 2.47 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 2% โดยสินค้าที่มีศักยภาพส่งออก เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ และเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งแม้ว่าสหรัฐจะมีเงื่องไขทางการค้าสูง แต่ก็ยังเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจและการปฎิบัติตามกฎระเบียบจะช่วยยกระดับการผลิตและการส่งออกของไทยด้วย

น.ส.ดุจเดือน ศศะนาวิน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวว่า จะผลักดันให้เกิดความร่วมมือกับองค์การอาหารและยาสหรัฐ (USFDA) และจัดสัมมนาเพื่อให้ความรู้กับผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไทยในการส่งสินค้าเกษตรและอาหารไปสหรัฐตามกฎหมายใหม่

ที่มา: http://www.posttoday.com/biz/gov/454122

Share This Post!

471 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top