รสเผ็ด รสเปรี้ยว และรสชาติแบบเอเซีย จะมาแรงในปี 2559
อาหารที่มีรสเผ็ดผสมผสานกับรสเปรี้ยวและรส ชาติแบบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในเทรนด์รสชาติที่ คาดว่าจะเป็นที่นิยมในปี 2559 ตามการคาดการณ์ของ McCormick & Company’s “Flavor Forecast” ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวจะส่งผลต่อการคิดค้นเมนูอาหารทั้งที่ทำเองที่บ้าน ในร้านอาหาร และบนชั้นวางสินค้าทั่วโลก
ในช่วง 1 ปีข้างหน้า Heat + Tang: รสเผ็ดจะถูกผสมผสานด้วยรสเปรี้ยว เพื่อยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหาร เช่น พริก rocoto, aji Amarillo และ aji panca จากเปรู กินคู่กับมะนาวและ Sambal sauce ของอินโดนีเซียและ มาเลเซีย ที่ทำมาจากพริก น้ำส้มสายชู และกระเทียม
Tropical Asian: อาหารที่มีสีสันสดใสและรสชาติที่โดดเด่นของประเทศมาเลเซียและฟิลิปปินส์จะ ดึงดูดความสนใจของผู้ที่มองหารสชาติที่แปลกใหม่ เช่น Pinoy BBQ อาหาร street food ที่มีชื่อเสียงของฟิลิปปินส์ และ Rendang curry ของมาเลเซีย
Blends with Benefits: สมุนไพรและเครื่องเทศที่มีรสชาติที่จะมาเพิ่มเติมในส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพ เช่น รสขมของชาเขียวผสมผสานกับขิงและพืชตระกูลส้ม เมล็ดเจีย จะมีรสชาติมากขึ้นเมื่อกินคู่กับพืชตระกูลส้ม พริก และกระเทียม นอกจากนี้ ขมิ้นผสมกับโกโก้ อบเชย และลูกจันทร์ทำให้เกิดรสหวาน เป็นต้น
Alternative “Pulse” Proteins: เมล็ดถั่ว (pulse) ที่เต็มไปด้วยโปรตีนและสารอาหารจะมีรสชาติดีขึ้นเมื่อจับคู่กับส่วนผสมอื่น ๆ เช่น ถั่วแระ (Pigeon peas) จับคู่กับขมิ้นและมะพร้าว ทั้งนี้ ถั่ว black beluga จะให้รสชาติที่แปลกใหม่เมื่อผสมกับพืชและมัสตาร์ด
Ancestral Flavors: อาหารสมัยใหม่จับคู่กับส่วนผสมพื้นเมืองเพื่อสร้างสรรอาหารที่มีรสชาติที่ แท้จริงและน่าพึงพอใจ อาทิ ไทม์ (thyme) สะระแหน่ ผักชี ลาเวนเดอร์ โรสแมรี่ และผักโขม
Culinary-Infused Sips: เทคนิคการปรุงอาหารแบบคลาสสิค 3 แบบ ได้แก่ การดอง (Pickling) การย่าง (Roasting) และการเผา (Brûlée) ที่ให้รสชาติใหม่และแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์การดื่มสุรา
แหล่งข้อมูล: Specialty Foods และ Flavor Forecast 2 ธันวาคม 2558
ขอบคุณข้อมูล: สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก