เงินบาทแกว่งตัวในกรอบแคบ จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ
ภาวะ การเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 19 มกราคม 2559 ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 36.28/30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (18/1) ที่ระดับ 36.31/33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อคืนที่ผ่านมา (18/1) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ หลังจากตลาดสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
ในวันนี้ (19/1) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศจีน ในปี 2558 ขยายตัวร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2533 หรือในรอบ 25 ปี และชะลอลงจากอัตราร้อยละ 7.3 ในปี 2557 สำหรับในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2558 จีดีพีจีนขยายตัวร้อยละ 6.8 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอลงจากไตรมาส 3 ที่เติบโตร้อยละ 6.9 และต่ำกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ร้อยละ 6.9 สำหรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธันวาคมขยายตัวร้อยละ 5.9 เมื่อเทียบรายปีต่ำกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ร้อยละ 6.0 และชะลอตัวลงจากเดือนพฤศจิกายนที่ขยายตัวร้อยละ 6.2 ส่วนตลอดทั้งปี 2558 ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวร้อยละ 6.1 ชะลอตัวลงจากปี 2557 ที่ขยายตัวร้อยละ 8.3
นอกจากนี้ มีการเปิดเผยยอดค้าปลีกของจีนในเดือนธันวาคมออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ โดยขยายตัวเพียงร้อยละ 11.1 เมื่อเทียบรายปี จากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ร้อยละ 11.3 ส่วนในปี 2558 ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.7 ซึ่งชะลอลงจากอัตราร้อยละ 12 ในปี 2557 ทั้งนี้ ค่าเงินบาทไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าว โดยระหว่างวันเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 36.27-36.30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 36.28/30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับค่าเงินยูโรวันนี้เปิดตลาดที่ระดับ 1.0887/91 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ทรงตัวเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (19/1) ที่ระดับ 1.0889/93 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร บ่ายวันนี้ (19/1) มีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธันวาคมของประเทศเยอรมนีเติบโตตามคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบรายปี และหดตัวร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบรายเดือนตามที่ตลาดคาด ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวระหว่าง 1.0861-1.0901 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1.0883/86 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับค่าเงินเยนวันนี้ เปิดตลาดที่ระดับ 1.17.53/55 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (19/1) ที่ระดับ 117.32/33 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ในวันจันทร์ (18/1) นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยในการประชุมรายไตรมาสของธนาคารกลางญี่ปุ่น ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงฟื้นตัวปานกลางจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินขนานใหญ่ ของธนาคารกลางญี่ปุ่น แม้ว่าอุตสาหกรรมส่งออกและการผลิตของญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัว ของเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ นอกจากนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับร้อยละ 2 และอาจจะปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) คงคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจใน 7 เขต จาก 9 เขต ไว้ที่เดียวกับที่เคยประเมินไว้ในเดือนตุลาคม ขณะที่มีการปรับเพิ่มมุมมองเกี่ยวกับเขตโตไค ทางตอนกลางของญี่ปุ่น โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของการผลิตรถยนต์และภาวะการจ้างงานที่แข็ง แกร่ง โดยระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่าง 117.25-117.93 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 117.77/79 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลทางเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องจับตาดูในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ ประจำเดือน ม.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (19/1), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ธ.ค.ของเยอรมนี (20/1), ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ธ.ค.ของสหรัฐ (20/1), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือน ธ.ค.ของสหรัฐฯ (20/1), ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประชุมและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย (21/1), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ (21/1), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นเดือน ม.ค.ของเยอรมนีและยูโรโซน (22/1), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือน ม.ค.ของสหรัฐฯ (22/1), ยอดขายบ้านมือสองเดือน ธ.ค.ของสหรัฐฯ (22/1)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +3.40/3.60 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +8.50/10.50 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา: ประชาชาติออนไลน์ ฉบับวันที่ 19 มกราคม 2559