ห้างเซอร์กิตซิตี้คืนชีพ
ห้างเซอร์กิตซิตี้ อดีตยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งวงการค้าปลีกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ของสหรัฐฯ คู่แข่งห้างเบสบาย ซึ่งได้เลิกกิจการไปเมื่อปี 2551 ประกาศขอคืนชีพกลับเข้าสู่ตลาดค้าปลีกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์อีกครั้งหนึ่ง
นายรอนนี่ ชโมล และ นายอัลเบิร์ต ลีเนียโด ซี่งเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการค้าปลีกสหรัฐฯ ปัดผุ่นนำห้างเซอร์กิตซิตี้คืนชีพ โดยขอซื้อแบรนด์โดเมนและเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้องของเซอร์กิตซิตี้และดำเนินการภายใต้กิจการใหม่ชื่อ เซอร์กิตซิตี้ คอร์ป ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าจะกอบกู้ชื่อคืนกลับมาใหม่ได้
บริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์ตลาดด้านการสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเอง (Private Label) เน้นการเปิดร้านค้าขนาดย่อมมีพื้นที่ประมาณ 2,000 – 4,000 ตารางฟุต หรือ 185- 370 ตารางเมตร รวมไปถึงร้านคิออส และโมไบช้อฟ การจำหน่ายทางออนไลน์รวมไปถึง แฟรนไชส์ โดยเน้นกลุ่มผู้บริโภคมิลเลนเนี่ยนเป็นสำคัญ ส่วนในด้านราคาสินค้าที่จำหน่าย จะเน้นราคาต่ำที่สุด ไม่มีการให้ส่วนลดเพื่อเลี่ยงการแข่งขันกับห้างระดับยักษ์ใหญ่ สินค้าที่จำหน่ายจะเน้นด้านเครื่องอิเล็คทรอนิกส์ขนาดย่อม เช่น โทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ก แทบเล็ต อุปกรณ์เน็ตเวิร์ก อิเล็คทรอนิกส์เกมส์ เครื่องพิมพ์ 3 มิติ เครื่องโดรน เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดย่อม สินค้าเพื่อสุขภาพ และสินค้าดีไอวาย
บริษัทฯ จะเปิดร้านสาขาของบริษัทฯ แห่งแรกที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ในเดือน มิถุนายน และคาดว่าจะเปิดเพิ่มจำนวน 50-100 สาขา และร้านค้าแบบแฟรนไชส์จำนวน 100 – 200 แห่ง ภายในปี 2560 และตั้งเป้าใน 5 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนสาขา 5,000 – 10,000 แห่งทั่วประเทศ
ข้อคิดเห็น
การคืนชีพของร้านเซอร์กิตซิตี้ จะเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าได้ในราคาย่อมเยาว์ ในทางกลับกันชี้ให้เห็นว่า ตลาดสหรัฐฯ มีความต้องการสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์เพิ่มขึ้นเพื่อการจำหน่าย ซึ่งจะส่งผลกระทบไปยังการเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องทางการส่งออกสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ของไทยไปยัง สหรัฐฯ และนำเสนอการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของร้านเซอร์กิตซิตี้ซึ่งน่าจะเป็นวิธีการที่เหมาะสมของประเทศไทย
ที่มา: www.twice.com, January 21, 2016
ขอบคุณข้อมูล: สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก