มีเฮ! กม.ใหม่ให้’โรบินฮูด’แคลิฟฯ ขอไลเซ่นต์ทำงาน40ประเภท
ปี 2016 เป็นปีแรกที่กฎหมาย เอสบี 1159 ของรัฐแคลิฟอร์เนียมีผลบังคับใช้ หลังจากที่ผ่านรัฐสภาและได้รับการลงนามโดยผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ตั้งแต่ปลายปี 2014 โดยกฎหมายฉบับนี้ มีเนื้อหาเรียกร้องให้คณะกรรมการพิจารณาใบอนุญาตประกอบอาชีพต่างๆ รวม 40 คณะ ในสังกัดสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคของแคลิฟอร์เนีย (the California Department of Consumer Affairs) ต้องรับพิจารณาแบบฟอร์มขอใบอนุญาตประกอบอาชีพเฉพาะด้าน (license) จากผู้ยื่นที่มีหลักฐานแสดงตัวไม่ครบถ้วน หรืออยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียแบบไม่ถูกต้อง
แอลเอไทมส์ รายงานข่าวนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยบอกว่านับจนถึงเดือนพฤษภาคม มีผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายในแคลิฟอร์เนีย ยื่นขอใบอนุญาตประกอบอาชีพต่างๆ รวมกว่า 300 ใบ โดยบอกว่าใบอนุญาตที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มผู้อยู่ไม่ถูกต้อง คือใบอนุญาตประกอบอาชีพแต่งผม-แต่งหน้า (barbering and cosmetology) มีผู้ยื่นขอ 151 ราย อันดับสองคือใบอนุญาตทำงานด้านสุสาน (cemetery operator license) จำนวน 36 ราย ตามมาด้วยใบอนุญาตประกอบอาชีพเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จำนวน 32 ราย, ช่างซ่อมรถ 24 ราย, พยาบาล (registered nurse RN) 15 ราย, พยาบาลผู้ช่วย (vocational nurse LVN) 14 ราย, นักทันตสุขอนามัย (Dental Hygienist) 7 ราย, ทันตแพทย์ 5 ราย
โดยขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดยื่นขอใบอนุญาตสำหรับแพทย์ (physician), นักบัญชี, สถาปนิก, นักมวย (boxers and martial arts fighters), ที่ปรึกษาการเงิน, นักสำรวจที่ดิน (land surveyors and geologists), หมอจัดกระดูก (osteopaths), หมอเกี่ยวกับเท้า (podiatrists) ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
แอลเอไทมส์ ได้สัมภาษณ์ นาร์โก้ นาวา ชาวแม็กซิกันวัย 32 ปี ที่บอกว่าเคยทำงานเป็นช่างเสริมสวยมีใบอนุญาตอยู่ที่แม็กซิโก แต่เมื่อหลบหนีเข้าเมืองมาเมื่อเก้าปีก่อน เขาต้องทำงานเก็บองุ่นในไร่ใกล้เมืองพอร์เตอร์วิลล์ ซึ่งเป็นงานที่หนักและได้ค่าแรงต่ำ โดยเขาบอกว่าขณะนี้ เขาได้กลับมาทำงานใน “ซาลอน” แห่งหนึ่งที่ติดแอร์เย็นฉ่ำทั้งวัน เพราะมีใบไลเซ่น สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง
“ผมไม่ต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ เพื่อออกไปทำงานที่ไม่จำเป็นต้องใช้ฝีมืออะไรอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ผมสามารถเลี้ยงลูกๆ ได้ พาไปส่งโรงเรียน แล้วก็ไปทำงานที่ผมรัก” นาร์โก้ นาวา กล่าว
ข่าวบอกด้วยว่า ร่างกฎหมายนี้เขียนขึ้นโดย ริคาร์โด้ ลาร่า วุฒิสมาชิกของแคลิฟอร์เนีย (เดโมแครต จากเบลล์ การ์เด้นส์) ซึ่งมาจากครอบครัวของผู้อพยพ ที่หลบหนีเข้าประเทศมาอย่างผิดกฎหมาย ก่อนจะมีโอกาสได้รับสัญชาติในภายหลัง
“สถานที่เกิดของคนๆ หนึ่ง ไม่ควรเป็นเครื่องกำหนดว่าเขาควรทำงานอะไร มีส่วนอุทิศให้กับสังคมและเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน” และว่ารัฐแคลิฟอร์เนียมีประชากรที่เป็นผู้อพยพมากที่สุดในประเทศ และมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับแปดของโลก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นมาจากประชากรกลุ่ม “ผู้อพยพ” ด้วย
ทั้งนี้ แคลิฟอร์เนียถือเป็นรัฐหัวแถวของอเมริกาที่ “ให้โอกาส” กับผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายมากที่สุด โดยก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศใช้กฎหมายอนุญาตให้ผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายทำใบบัตรขี่รถยนต์ ใบอนุญาตงาน (work permit) และขอทุนการศึกษาของรัฐ ฯลฯ แม้จะมีกระแสต่อต้านจากนักการเมืองพรรครีพับลิกันและกลุ่มอื่นๆ อย่างรุนแรงก็ตาม โดยกลุ่มนักกฎหมายกลุ่มหนึ่งอ้างว่า กฎหมาย เอสบี 1159 ที่ยินยอมให้ผู้อยู่แบบผิดกฎหมายยื่นขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพนี้ ขัดแย้งกับกฎหมายของรัฐบาลกลาง ที่ถือว่านายจ้างมีความผิด หากว่าจ้างแรงงานที่อยู่อย่างผิดกฎหมาย
“นักการเมืองของแคลิฟอร์เนีย สมควรที่จะให้ความสนใจกับการข่วยเหลือคนอเมริกัน อย่างที่เขาสาบานตัวเอาไว้ตอนเข้ารับตำแหน่ง แต่ตรงกันข้าม กลับช่วยผู้ที่บุกรุกเข้ามาอย่างผิดกฎหมายแย่งงานพวกเรา และทำให้ระบบเลือกตั้งของเราเสียหาย” ตัวแทนของกลุ่มขวาจัดชื่อ อเมริกัน ฟอร์ ลีเกิล อิมมิเกรชั่นฯ กล่าว
ก่อนหน้านี้ ผู้ที่จะยื่นขอใบอนุญาตประกอบอาชีพที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ ซึ่งมีกว่า 40 อาชีพ จะต้องยื่นใบสมัครพร้อมกับหมายเลขบัตรประกันสังคม เพื่อแสดงตัวว่าเป็นพลเมืองอเมริกัน หรืออยู่ในประเทศอย่างถูกต้องและมีสิทธิ์ทำงาน แต่กฎหมายฉบับนี้ อนุญาตให้คณะกรรมการพิจารณาใบอนุญาตทำงานของรัฐ (licensing board) จำนวน 40 ชุดยอมรับเลขบัตรผู้เสียภาษีของรัฐบาลกลาง (federal texpayer identificaton number) ซึ่งออกโดย ไออาร์เอส แทนบัตรประกันสังคม
วุฒิสมาชิก ริคาร์โด้ ลาร่า กล่าวว่า บุคคลในกลุ่มอาชีพเหล่านี้ ส่วนหนึ่งลักลอบทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตอยู่แล้ว ซึ่งการทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้องของรัฐแคลิฟอร์เนีย หมายถึงคนกลุ่มนี้กำลังทำงานโดยไม่มีผ่านการฝึกตามจำนวนชั่วโมงที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจจะมีผลร้ายในด้านสุขภาพหรือความปลอดภัยของสาธารณะชนได้
โดยการยื่นขอใบอนุญาตประกอบอาชีพที่รัฐควบคุมเหล่านี้ ผู้ยื่นจะต้องมีหลักฐานตามที่กำหนด เช่นหลักฐานการศึกษาในสายงานที่ยื่นขอ ต้องผ่านการฝึกฝน และผ่านการทดสอบต่างๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์เพียงพอที่จะทำงานนั้นๆ ได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ รัฐจะมีผลประโยชน์มากมายนอกเหนือจากที่รัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น เช่นเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน และเป็นการส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนอีกด้วย” วุฒิสมาชิก ลาร่า กล่าว
ทั้งนี้ วุฒิสมาชิก ลาร่า หวังว่าการอนุญาตให้ผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายสามารถยื่นขอใบอนุญาตประกอบอาชีพเฉพาะด้าน จะทำให้มีผู้ที่อยู่อย่างผิดกฎหมายยื่นขอเสียภาษีอย่างถูกต้องมากขึ้น โดยข้อมูลจากศูนย์นโยบายอิมมิเกรชั่น บอกว่าในปี 2010 ผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายในแคลิฟอร์เนีย เสียภาษีให้กับรัฐมากถึง 2.7 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ บรรดาเจ้าของธุรกิจ ก็จะได้ผลประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้เช่นกัน เช่นกรณีของ แนนซี่ กอนซาเลซ และเพื่อน ที่เป็นเจ้าของร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งในย่านซานเฟอร์นานโด้ แม้จะอยู่อย่างผิดกฎหมายก็ตาม
“ฉันรู้สึกว่ามีอิสรภาพมากขึ้น ฉันมีความสุขเพราะว่าสามารถช่วยเหลือครอบครัว ช่วยเหลือสามีได้โดยไม่ต้องหวาดวิตกอยู่ตลอดเวลาว่าจะมีผู้ตรวจ (inspector) เข้ามาตรวจ ซึ่งแปลว่าฉันจะต้องจ่ายค่าปรับฐานทำงานโดยไม่มีไลเซ่นต์ไม่ต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์” แนนซี่ กอนซาเลซ กล่าว.
ขอขอบคุณ Siam Town US
Siam Town US, ศ, พ.ค. 13, 2559
by ภาณุพล รักแต่งาม