“ทรัมป์” ขู่เก็บภาษี 35% บริษัทเอกชนสหรัฐฯ ย้ายฐานผลิตไปต่างแดน
ฟ็อกซ์นิวส์/MGR Online – โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยเมื่อวันอาทิตย์ (4 ธ.ค.) ว่าเขาจะเรียกเก็บภาษี 35 เปอร์เซ็นต์ กับเหล่าบริษัทของสหรัฐฯ ที่เคลื่อนย้ายงานหรือปฏิบัติการต่างๆ ไปยังประเทศอื่นๆ ไม่กี่วันหลังแถลงบรรลุข้อตกลงกับแคร์ริเออร์ เพื่อรักษางานด้านการผลิตราว 1,100 ตำแหน่งให้อยู่ในอเมริกาต่อไป
U.S. President-elect Donald Trump gives a thumbs up to the media as he arrives at a costume party at the home of hedge fund billionaire and campaign donor Robert Mercer in Head of the Harbor, New York, U.S., December 3, 2016. REUTERS/Mark Kauzlarich
ทรัมป์ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ ระบุว่า “สหรัฐฯ กำลังจะมีนโยบายลดภาษีและยกเลิกกฏเกณฑ์ต่างๆ สำหรับภาคธุรกิจ แต่บริษัทใดที่มีแผนย้ายโรงงานไปต่างประเทศ ปลดพนักงาน สร้างโรงงานใหม่ในประเทศอื่น และคิดว่าจะส่งสินค้าเหล่านั้นกลับมายังสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับผลกรรมหรือผลตอบสนองแล้วละก็ พวกเขาคิดผิด”
“เร็วๆ นี้เราจะมีกำแพงภาษีที่แข็งแกร่ง 35 เปอร์เซ็นต์สำหรับบริษัทเหล่านี้ จงพึงสังวรก่อนตัดสินใจผิดพลาดที่แสนแพง สหรัฐฯเปิดรับต่อการทำธุรกิจ” ทรัมป์เขียนลงบนทวิตเตอร์
ทวีตดังกล่าวมีขึ้นหลังจากทรัมป์แถลงเมื่อสัปดาห์แล้วว่าเขาบรรลุข้อตกลงกับแคร์ริเออร์ ผู้ผลิตเตาและเครื่องปรับอากาศ ในการรักษาตำแหน่งงานในอินดีแอนา แทนการย้ายโรงงานไปยังเม็กซิโก ซึ่งมีค่าแรงถูกกว่าและช่วยลดต้นทุนได้มาก
ทรัมป์ กล่าวอ้างความสำเร็จที่สามารถรักษาตำแหน่งงานราว 1,000 ตำแหน่งของแค์ริเออร์ให้อยู่ในรัฐอินเดียน่าต่อไป แลกกับการให้ผลประโยชน์จูงใจด้านภาษีเป็นมูลค่า 7 ล้านดอลลาร์
แต่นักวิจารณ์บอกว่าข้อตกลงดังกล่าวอาจเป็นผลเสียต่อการจ้างงานในอนาคต เพราะบริษัทอื่นๆ ในสหรัฐฯ อาจใช้วิธีข่มขู่ว่าจะย้ายโรงงานไปต่างประเทศ เพื่อแลกกับการได้รับข้อยกเว้นทางภาษีจากรัฐบาลทรัมป์เช่นกัน
ในบรรดาคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นั้นรวมถึง เบอร์นี แซนเดอร์ส ผู้สมัครชิงตัวแทนพรรคเดโมแครต ลงสู้ศึกประธานาธิบดี 2016 และ ซาลาห์ แพลิน คู่ชิงรองประธานาธิบดีปี 2008 ที่บ่งชี้ว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นตัวอย่างของระบบทุนนิยมเล่นพวก(Crony capitalism)
อย่างไรก็ตาม ไมค์ เพนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปกป้องความพยายามโน้มน้าวแคร์ริเออร์ของทรัมป์ ผ่านรายการมีต เดะ เพรส ของเอ็นบีซี ว่า “เราใจสลายเมื่อได้ยินข่าวว่าแคร์ริเออร์ กำลังถอนการลงทุน เหตุผลเดียวที่แคร์ริเออร์ยังอยู่ในสหรัฐฯ ก็เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี”
ขอขอบคุณข่าวจาก มติชนออนไลน์