เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2560 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ได้จัดให้คณะเจ้าหน้าที่รัฐสภาสหรัฐฯ พบกับภาคเอกชนไทยนำโดยนายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยพร้อมด้วยนักธุรกิจชั้นนำของไทย รวมถึงบริษัทที่ไปลงทุนในสหรัฐฯ อาทิ เครือซีพีและกลุ่มไทยยูเนี่ยน
เอกชนไทยได้ใช้โอกาสนี้อธิบายถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนของไทยในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเฉพาะนโยบายประเทศไทย 4.0 และ Eastern Economic Corridor รวมทั้งการปฏิรูปกฏระเบียบต่าง ๆ เพื่อเอื้อต่อการทำธุรกิจในไทยและการลงทุนในต่างประเทศโดยบริษัทไทย
เอกชนไทยยังได้เล่าให้ฟังถึงการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน เอกชนไทยลงทุนทางตรงและทางอ้อมในสหรัฐจำนวน 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กระจายอยู่ใน 25 มลรัฐทั่วสหรัฐฯ และส่งเสริมการจ้างงานชาวอเมริกันไม่ต่ำกว่า 68,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน เอกชนไทยและคณะเจ้าหน้าที่รัฐสภาสหรัฐฯ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และการปฏิรูประบบภาษีที่จะเกิดขึ้นทั้งการลดภาษีเงินได้และข้อเสนอเรื่อง Border Adjustment Tax โดยก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ ประกาศว่าต้องการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงอย่างมาก ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่รัฐสภาสหรัฐฯ ได้อธิบายถึงกระบวนการพิจารณาของรัฐสภาฯ ที่มีหน้าที่ออกกฎหมายภาษีตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ โดยคาดว่าลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจะเกิดขึ้นแน่นอน เพียงแต่จะระดับไหน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับกระบวนการเจรจาต่อรองในรัฐสภา โดยจะต้องพิจารณาเรื่องรายรับรายจ่าย และระดับหนี้สาธารณะในภาพรวมด้วย ส่วนข้อเสนอเรื่อง Border Adjustment Tax ก็ยังอยู่ระหว่างกระบวนการและขั้นตอนการพิจารณา ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง