สหรัฐฯ จัดเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมินัม เริ่ม 23 มี.ค. 61 นี้
เมื่อ 8 มีนาคม 2561 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในประกาศ (President Proclamations) บังคับใช้มาตรการปกป้องต่อสินค้าเหล็กและอลูมินัมตามกฎหมาย Trade Expansion Act 1962 บนพื้นฐานของ National Security โดยให้จัดเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 25 เปอร์เซ็นต์ สำหรับสินค้าเหล็ก และร้อยละ 10 สำหรับสินค้าอลูมินัม ทั้งรายพิกัดสินค้าและรายประเทศจากทุกประเทศ ยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโกที่กำลังอยู่ในช่วงเจรจาข้อตกลง NAFTA มาตราการจัดเก็บภาษีจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป แต่สหรัฐฯ เปิดช่องให้ประเทศคู่ค้าเข้าหาเพื่อเจรจาขอยกเว้น
การสอบสวนภายใต้มาตราการ 232 มีวัตถุประสงค์เพื่อหาผลกระทบของการนำเข้าสินค้าที่อาจก่อภัยคุกคามและมีผลต่อความมั่นคงสหรัฐฯ (National Security) ภายหลังการตรวจสอบ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่าการนำเข้าสินค้าเหล็กและอลูมินัมมีผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติ จึงเสนอให้รัฐบาลปรับเพิ่มภาษีและกำหนดโควตานำเข้าสินค้าทั้งสอง และกลายเป็นประกาศเพิ่มอากรสินค้าทั้งสองเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เปิดช่องว่าสหรัฐฯ พร้อมคุยกับทุกประเทศที่มีความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงเพื่อหาแนวทางเกี่ยวกับความกังวลเรื่องการนำเข้าสินค้าทั้งสอง รวมถึงการผลิตที่อาจเกินความต้องการจากทั่วโลก (“alternative ways to address our concerns, including our concerns about global excess capacity”) ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังเผยว่า ประเทศต่าง ๆ อาจได้รับการปรับหรือยกเว้นอัตราภาษีนำเข้า หากประเทศนั้นสามารถเจรจาและแสดงให้เห็นเป็นหลักประกันว่าการนำเข้าสินค้าทั้งสองจากประเทศนั้นจะไม่กระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ซึ่งสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (United States Trade Representative: USTR) จะเป็นผู้รับผิดชอบการเจรจารายประเทศกับประเทศที่ต้องการขอปรับหรือยกเว้นภาษี
มาตราการภาษียังมีกลไกให้บริษัทสหรัฐฯ ขอยกเว้นสำหรับสินค้านำเข้าบางชนิดที่ผลิตภายในประเทศไม่เพียงพอหรือด้วยเหตุผลความมั่นคงแห่งชาติ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2561 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ประกาศรายละเอียดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการดำเนินการขอยกเว้นนำเข้าสินค้าเหล็กและอลูมินัมจากธุรกิจเป็นรายพิกัด ซึ่งเริ่มรับคำร้องตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป ประกาศระบุว่า บุคคลหรือองค์กรในสหรัฐที่ใช้เหล็กและอลูมินัมในกิจกรรมทางธุรกิจ สามารถยื่นคำร้องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ www.regulations.gov โดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำร้องสินค้าเหล็กได้ที่ https://www.bis.doc.gov/index.php/232-steel และสินค้าอลูมินัมได้ที่ https://www.bis.doc.gov/index.php/232-aluminum กระบวนการพิจารณาคำขอโดยปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 90 วัน สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตัน ได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลภาษาไทยสำหรับผู้ประกอบการไว้ให้แล้ว คลิกที่นี่
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2561 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ประกาศรายละเอียดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการดำเนินการขอยกเว้นนำเข้าสินค้าเหล็กและอลูมินัมจากธุรกิจเป็นรายพิกัด ซึ่งเริ่มรับคำร้องตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป ประกาศระบุว่า บุคคลหรือองค์กรในสหรัฐที่ใช้เหล็กและอลูมินัมในกิจกรรมทางธุรกิจ สามารถยื่นคำร้องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ www.regulations.gov โดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำร้องสินค้าเหล็กได้ที่ https://www.bis.doc.gov/index.php/232-steel และสินค้าอลูมินัมได้ที่ https://www.bis.doc.gov/index.php/232-aluminum กระบวนการพิจารณาคำขอโดยปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 90 วัน สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตัน ได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลภาษาไทยสำหรับผู้ประกอบการไว้ให้แล้ว คลิกที่นี่
นอกจากแคนาดาและเม็กซิโกแล้ว ระหว่างการตอบข้อซักถามของคองเกรสในช่วงวันที่ 22 และ 23 มีนาคม 2561 นาย Robert Lighthizer ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุเพิ่มว่า จะยกเว้นอากรนำเข้าเหล็กและอลูมินัมให้กับเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย อาร์เจนตินา บราซิล รวมถึงประเทศในยุโรป
จัดทำโดย ศิวรี อินทรทัต
มีนาคม 2561