ในยุคนี้ โซเชียลมีเดียกลายเป็นส่วนสำคัญในการทำธุรกิจ ไม่ว่าผู้ประกอบการร้านอาหารจะสนใจเป็นผู้สร้างความเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียด้วยตนเองหรือไม่ก็ตาม ลูกค้าก็จะพูดถึงร้านอาหารของคุณไม่ว่าจะบนทวิตเตอร์ เฟสบุ๊ค หรือในอินสตาแกรมอยู่ดี
ขณะที่เจ้าของร้านอาหารส่วนหนึ่งมองโซเชียลมีเดียเป็นเพียงสิ่งที่จำเป็นต้องทำ สำหรับเจ้าของร้านอีกหลายคน ถือว่าโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่สามารถนำธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ และใช้โซเชียลมีเดียเป็นหนึ่งในการวางแผนการตลาดของธุรกิจเลยทีเดียว
ต่อไปนี้คือตัวอย่าง 10 กลเม็ดโซเชียลมีเดียที่ได้สร้างความสำเร็จให้กับร้านอาหารในสหรัฐฯ
1. นำเสนออย่างสัมพันธ์กันในทุกสื่อ
ใครทำ: sweetgreen
ทำอะไร: ร้าน sweetgreen เป็นแบรนด์ร้านอาหารที่เน้นเรื่องความสดใหม่และความยั่งยืนของอาหาร จำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพที่ขบวนการผลิตไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม ช่วยเหลือเกษตรกรท้องถิ่น รูปแบบการดีไซน์แบรนด์ออกมาในแนวสะอาดและทันสมัยในทุกสื่อของร้าน ทั้งการตกแต่งร้าน ในแอพลิเคชั่นมือถือ หรือในโซเชียลมีเดีย sweetgreen ใช้ตัวอักษรเป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด ทั้งในโซเชียลมีเดีย ในแอพลิเคชั่น โลโก้ และเว็บไซต์ และใช้รูปภาพอาหารที่มีสีสันสดใสดูมีชีวิตชีวาในทุกสื่อ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้แบรนด์ sweetgreen เป็นที่จดจำได้ แม้ว่าจะไม่มีโลโก้ให้ลูกค้าเห็นบนหน้าจอก็ตาม
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ: ไม่ต้องสงสัยเลยว่า sweetgreen ได้มีการวางแผนกลยุทธ์ในการใช้โซเชียลมีเดียไว้เป็นอย่างดี (ซึ่งอาจมาจากการจ้างเอเจนซี่ที่มีประสบการณ์เข้ามาช่วย) แต่ถึงแม้คุณจะไม่มีเอเจนซี่มืออาชีพมาช่วย คุณก็สามารถสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำได้ โดยใช้ข้อความและรูปภาพที่เหมือนและสอดคล้องกันในทุกโพสต์ บนทุกโซเชียลมีเดียของแบรนด์ รวมถึงการสร้างความสอดคล้องของการตกแต่งและบรรยากาศภายในร้าน
แบรนด์ของคุณก็จะมีเอกลักษณ์และเป็นที่จดจำได้ง่าย ธุรกิจของคุณจะเป็นมากกว่าที่ที่คนมารับประทานอาหาร ลูกค้าจะได้เข้าถึงหรือรู้จักแบรนด์ของคุณ คุณจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ได้เลยไปกว่าเฉพาะเวลาที่ลูกค้าเข้าไปทานอาหารที่ร้าน โซเชียลมีเดียสามารถช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้กับลูกค้า สร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เพิ่มขึ้นได้โดยผ่านโทรศัพท์มือถือ
2. ขยันตอบรีวิวออนไลน์
ใครทำ: Paris Creperie
ทำอะไร: ผู้จัดการร้าน Paris Creperie คอยจับตามองเพจของร้านใน Yelp แพลตฟอร์มรีวิวร้านอาหารที่เป็นที่นิยมมากในสหรัฐฯ ทีมงานของร้านจะคอยตอบทุกรีวิวที่มีคนมาโพสต์ไว้ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวในแง่บวกหรือในแง่ลบก็ตาม
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ: การตอบรีวิวทั้งทางบวกและทางลบที่มีเข้ามาเป็นการสร้างภาพลักษณ์ความโปร่งใส และความเป็นมิตรให้กับร้าน ร้าน Paris Creperie ไม่กลัวการพูดถึงข้อเสียของร้าน และให้คำยืนยันกับลูกค้าว่าจะพัฒนาปรับปรุงข้อติติงเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง ผู้จัดการร้านยังใช้รีวิวจาก Yelp เป็นโอกาสในการเข้าใจความรู้สึกที่ลูกค้ามีต่อร้าน และใช้เปลี่ยนใจคนที่ไม่ชอบให้กลับมาเข้าร้านของเขาได้
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่สามารถตอบได้ทุกรีวิวบน Yelp หรือบนแพลตฟอร์มรีวิวอื่น ๆ คุณอาจจะลองตอบลูกค้าที่รีวิวในแง่ลบ เช่น ตอบคนที่ไม่พอใจในอาหารหรือการบริการก่อน เพื่อสร้างโอกาสในการปรับเปลี่ยนความคิด และพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
3. แชร์โพสต์ของลูกค้าในเพจของร้าน
ใครทำ: Pieology Pizzeria
ทำอะไร: ร้านพิซซ่า Pieology โปรโมทให้ลูกค้าใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวกับแบรนด์หรือสินค้าของร้าน เช่น #MyPieology #PerfectPieologyPull ในการโพสต์แสดงความคิดเห็นหรือรูปอาหารที่ซื้อจากร้าน เพื่อมีสิทธิ์ลุ้นได้นำโพสต์ลงในเพจหลักของร้าน ร้าน Pieology จะแชร์รูปหรือแสดงความคิดเห็นของลูกค้าในทุกๆโซเชียลมีเดียของร้านอย่างสม่ำเสมอ
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ: Pieology ให้ลูกค้าเป็นผู้นำเสนอแบรนด์ (brand ambassador) ด้วยการแชร์รูปและแสดงความคิดเห็นในเพจของร้าน วิธีนี้ทำให้ร้านสามารถสร้าง social proof หรือการพิสูจน์แล้วโดยสังคม ผ่านรีวีวจากลูกค้า เพื่อให้ผู้บริโภคคนอื่นทำตาม นี่ก็ถือเป็นการตลาดฟรี ๆ นั่นเอง
[Social proof หรือการพิสูจน์แล้วโดยสังคม คือการบอกผู้บริโภคว่า สินค้าหรือบริการนี้ได้ผ่านการทดลองหรือผ่านการพิสูจน์แล้ว ซึ่งสามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น ผ่านผู้เชี่ยวชาญ ผ่านคนดังหรือดารา ผ่านผู้ใช้สินค้าจริง ผ่านการบอกต่อกัน ผ่านเพื่อนแนะนำ หรือการมีใบรับรอง เป็นต้น]
4. แจกคูปองส่วนลดเฉพาะผู้ติดตามโซเชียลมีเดียของร้าน
ใครทำ: Pieology Pizzeria
ทำอะไร: เมื่อตอนร้าน Pieology ประชาสัมพันธ์ร้านตอนเปิดสาขาในเมือง Irvine รัฐแคลิฟอร์เนีย ร้าน Pieology ได้ส่งคูปองแลกรับขนมซินนามอนสติ๊กฟรีให้แก่ลูกค้าที่แชร์รูปพิซซ่าของร้าน พร้อมติดแฮชแท็ก #MyPieology
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ: Pieology สาขานี้ได้ก้าวไปอีกหนึ่งขั้นในการชักชวนให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดียของร้าน ด้วยการแจกส่วนลดพิเศษให้ลูกค้าที่แชร์รูปออนไลน์ ร้าน Pieology ให้รางวัลแก่ลูกค้าที่เป็นผู้ติดตามโซเชียลมีเดียที่พูดถึงร้าน ลูกค้าที่ได้คูปองไปก็มีแนวโน้มที่จะแชร์ไปให้เพื่อนของเขาได้รับรู้เกี่ยวกับคูปองพิเศษนี้ต่อ และนี่ก็เป็นการขยายฐานผู้ติดตามโซเชียลมีเดียของร้านนั่นเอง รายงานของ Whaleshark Media พบว่า 74% ของผู้ใช้คูปองกล่าวว่า หากตนได้คูปองหรือรหัสส่วนลด พวกเขามีโอกาสจะลองใช้หรือบริโภคแบรนด์ใหม่ ๆ หรือสินค้าใหม่ ๆ มากขึ้น
วิธีการนี้อาจจะมีต้นทุนสูง (เนื่องจากร้านต้องแจกส่วนลดหรือของฟรี) ดังนั้น คุณควรจะต้องดูจุดประสงค์หรือเป้าหมายในการทำการตลาดเช่นนี้ เช่นหากอยากให้คนรู้จักร้าน รู้ว่าร้านมาเปิด หรือดึงให้คนมาใช้บริการของร้านในช่วงร้านเปิดแรกๆ การตลาดแบบนี้ก็อาจเหมาะกับร้านของคุณ
5. ขอให้แฟนคลับช่วยสนับสนุนร้าน
ใครทำ: Monteverde Restaurant & Pastificio
ทำอะไร: ร้าน Monteverde ซึ่งเป็นร้านอาหารอิตาเลียนแนวแปลกใหม่ ชนะการประกวดร้านอาหารขวัญใจผู้บริโภค (Eater’s Restaurant of the Year) ในนครชิคาโก้ เพราะว่าร้านขอให้ลูกค้ามาช่วยร่วมกันโหวต ร้านใช้โซเชียลมีเดียในการประกาศการเข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้และขอให้ลูกค้าไปช่วยกันโหวตแบบตรง ๆ ซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดี
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ: เมื่อได้พยายามอย่างมากที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าเวลาที่พวกเขา
อยู่ในร้านแล้ว คุณสามารถที่จะใช้ประโยชน์ต่อจากความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นผ่านทางโซเชียลมีเดีย
ถ้าคุณมั่นใจว่าร้านของคุณให้ประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดกับลูกค้าและลูกค้าก็ติดตามคุณในช่องทางออนไลน์ เป็นเสมือนดั่งแฟนพันธุ์แท้ของร้าน แฟนของร้านคุณย่อมอยากที่จะสนับสนุนร้านที่พวกเขาชอบอยู่แล้ว
6. ให้ความสำคัญกับทีมงาน ในร้าน
ใครทำ: Mei Mei Street Kitchen
ทำอะไร: ร้าน Mei Mei เป็นกิจการที่ทำร่วมกันโดยพี่น้องสามคน ตั้งแต่เปิดร้าน ก็มีชื่อเสียงและได้รับรางวัลมาตลอดทั้งในเรื่องคุณภาพอาหารและพนักงานที่เป็นเหมือนครอบครัว ร้าน Mei Mei นำพนักงานเข้ามาเป็นหนึ่งส่วนสำคัญของแบรนด์
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ: การแชร์เรื่องราวของบุคคลเบื้องหลังของแบรนด์ถือเป็นวิธีการที่ดีในการทำให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายขึ้น หรือรู้จักแบรนด์ได้มากขึ้น ไม่ว่าร้านของคุณจะเป็นร้านที่ชนะรางวัลหรือไม่ก็ตาม
การโพสต์ภาพเบื้องหลัง หรือเรื่องราวสนุก ๆ เกี่ยวกับพนักงานทำให้ผู้ติดตามรู้สึกใกล้ชิดกับธุรกิจของคุณมากขึ้น รวมไปถึงรู้สึกใกล้ชิดกับพนักงาน หรือบุคคลเบื้องหลังในการทำงานมากขึ้นอีกด้วย
7. ตั้งคำถามให้ผู้ติดตามได้มีโอกาสเข้ามาตอบ
ใครทำ: Which Wich Superior Sandwiches
ทำอะไร: ร้าน Which Wich Superior Sandwiches สร้างความผูกพันกับลูกค้าด้วยการตั้งคำถามสนุก ๆ และชักชวนให้ผู้ติดตามหรือแฟนเพจเข้าไปตอบ
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ: การตั้งคำถามเพื่อให้ผู้ติดตามเข้าไปตอบมีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้เข้าไปตอบจำเนื้อหาของโพสต์ได้ดี ซึ่งหมายความว่าลูกค้าจะจำสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อได้ดีขึ้น โซเชียลมีเดียเป็นมากกว่าช่องทางธุรกิจที่ใช้เพียงแจ้งข่าวสารให้กับผู้ติดตาม คุณสามารถฟังเสียงตอบรับหรือความคิดเห็นของลูกค้าได้เช่นกัน เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรมถือเป็นช่องทางที่ยอดเยี่ยมในการใช้พูดคุยกับลูกค้า ลองถามคำถามเช่น “จงเติมคำในช่องว่าง” “เมนูไหนเป็นเมนูโปรดของคุณ” “เมนูไหนต่อไปนี้ที่คุณอยากให้ร้านทำ” เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าเข้ามาโต้ตอบกับร้าน การตั้งคำถามเช่นนี้ดีกว่าโพสต์เพื่อเพียงแค่บอกให้ลูกค้าทราบเฉย ๆ ลูกค้าอาจจะเลื่อนผ่านไปโดยไม่ทันได้เห็นข้อความหรือไม่ได้สนใจ
8. ใช้ประโยชน์จากกระแสดัง
ใครทำ: Upper Crust Pizzeria
ทำอะไร: เมื่อครั้งที่พายุหิมะ Stella ถาโถมภาคตะวันออกเฉียงหนือของสหรัฐฯ ผู้คนได้พูดถึงพายุนี้อย่างแพร่หลายบนโซเชียลมีเดีย ร้าน Upper Crust เกาะกระแสข่าวโดยการโพสต์ภาพพนักงานของร้านถ่ายรูปอยู่ท่ามกลางพายุหิมะคู่กับนักข่าวที่กำลังรายงานอากาศ พร้อมใส่แฮชแท็ก #openinBOS (#เปิดอยู่ในบอสตัน) ซึ่งเป็นแฮชแท็กที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนั้น
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ: การพูดถึงหัวข้อที่กำลังเป็นกระแสในโซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่สามารถทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียมีโอกาสเห็นโพสต์ของคุณมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าหากคุณสามารถคิดโพสต์สนุก ๆที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้น ๆ ได้ นักการตลาดเรียกกลยุทธ์แบบนี้ว่า “newsjacking” หรือการแย่งพื้นที่ข่าว ซึ่งใช้เป็นวิธีให้ผู้ติดตามข่าวที่กำลังเป็นกระแส มีโอกาสเข้ามาเห็นโพสต์ของคุณได้มากขึ้น อย่างไรก็ดี วิธีการนี้อาจส่งผลในแง่ลบให้กับแบรนด์ได้หากโพสต์ที่ใช้นั้นก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้ใช้โซเชียลมีเดีย
โพสต์ที่ต้องการเกาะกระแสข่าวควรมีเนื้อหาที่มีความคิดสร้างสรรค์ หรือมีความสอดคล้องไปกับกระแสข่าว ไม่ควรที่จะใช้แค่แฮชแท็กที่กำลังเป็นกระแสแต่เนื้อหาของโพสต์ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ หรือเกี่ยวข้องกับข่าวเลย
9. จัดการประกวดบนโซเชียลมีเดีย
ใครทำ: Capriotti’s Sandwich Shop
ทำอะไร: ใครๆ ก็ชอบของฟรี ร้าน Capriotti’s จึงใช้เกมสนุก ๆ เช่นให้ผู้ติดตามเพจแข่งกันเขียนคำบรรยายภาพ เพื่อชิงคูปองส่วนลดอาหาร ร้านเลือกผู้ชนะที่คิดคำบรรยายภาพได้สร้างสรรค์มากที่สุด และส่งคูปองส่วนลดไปให้ ลูกค้าใช้ในครั้งหน้าที่ไปรับประทานอาหารที่ร้าน
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ:การแข่งประกวดบนโซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่ใช้เพื่อเพิ่มการโต้ตอบ ปฏิสัมพันธ์ หรือสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ส่วนใหญ่มักใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อเป้าหมายระยะสั้น เพราะเป็นวิธีการที่สามารถเห็นผลสำเร็จได้รวดเร็ว การประกวดมีอยู่หลากหลายวิธี ธุรกิจสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ได้ด้วยการเชื้อเชิญให้ลูกค้าเข้าไปเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นเกมตอบคำถาม เกมปริศนาคำใบ้ เกมเติมคำในช่องว่าง การแข่งประกวดรูปภาพ การแข่งประกวดคำบรรยายภาพ
10. โพสต์วิดีโอเพื่อให้แบรนด์ดูมีชีวิต
ใครทำ: Il Primo Pizza & Wings
ทำอะไร: ร้าน Il Primo โพสต์วิดีโอประมาณสัปดาห์ละครั้งเพื่อโปรโมทรายการอาหารพิเศษ รายการกีฬาในท้องถิ่น หรืองานระดมทุนที่กำลังจะจัดขึ้น นอกจากนี้ ร้านยังใช้วิดีโอเพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็นถึงการทำงานเบื้องหลัง ทำให้ร้านสามารถสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่สนุก เป็นมิตร และเหมาะกับครอบครัว
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ: ร้าน Il Primo เป็นตัวอย่างของการสร้างแบรนด์ผ่านโซเชียลมีเดียที่แสดงให้เห็นว่าธุรกิจไม่จำเป็นต้องมีนักการตลาดมืออาชีพ ก็สามารถสร้างเนื้อหาที่ดี น่าติดตามได้ ร้านพิซซ่าที่มีอยู่ด้วยกัน 6 สาขาของ Il Primo ใช้งบประมาณไม่มากในการถ่ายทำวีดีโอด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือ และแชร์วีดีโอให้กับผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียของร้าน
ธุรกิจสามารถสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ง่ายขึ้นโดยการใช้วีดีโอ เพราะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น และเข้าใจได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการสื่อสารเพียงแค่ตัวอักษร
การสร้างและดูแลโซเชียลมีเดียของร้านให้ประสบความสำเร็จอาจจะฟังดูเป็นงานที่ค่อนข้างยากลำบาก แต่เพราะว่าจุดใหญ่ใจความของโซเชียลมีเดียก็คือการเข้าถึง “คน” โซเชียลมีเดียจึงเป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถติดต่อสื่อสารกับฐานลูกค้าเดิมหรือดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่ ๆ ได้โดยตรง ตัวอย่างข้างต้นสามารถเป็นแรงบันดาลใจในการปรับกลยุทธ์การใช้โซเชียลมีเดียของร้านคุณให้ดียิ่งขึ้น แล้วอย่าลืมนำไปทำตามบ้างนะคะ
ที่มา https://pos.toasttab.com/blog/examples-of-awesome-restaurant-social-media-marketing
พิมพ์นิภา กังสนันท์ แปล
บุษบรรณ์ ประทุมวินิจ เรียบเรียง