
สถาบัน Williams Institute มหาวิทยาลัย UCLA School of Law ได้วิเคราะห์ข้อมูลประชากรในสหรัฐฯ ที่เป็นกลุ่ม Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender (LGBT) จากฐานข้อมูลการสำรวจของ Gallup Daily Tracking Survey พบว่า กลุ่มประชากรที่แสดงตนว่าเป็น LGBT ในสหรัฐฯ มีจำนวนประมาณ 4.5% หรือคิดเป็นจำนวนประมาณ 11.3 ล้านคน
กรุงวอชิงตัน ดีซี มีจำนวนประชากร LGBT มากที่สุดติดอันดับ 1 ของประเทศ (ร้อยละ 9.8) ในขณะที่รัฐนอร์ทดาโคตา มีจำนวนประชากร LGBT อยู่ในระดับต่ำสุด (ร้อยละ 2.7)

จำนวนประชากร LGBT ที่เป็นผู้ปกครองหรือมีบุตรนั้นมีจำนวนร้อยละ 29 ถึงแม้ว่ากรุงวอชิงตัน ดีซี มีจำนวนประชากร LGBT มากที่สุด แต่กลับมีจำนวน LGBT ที่เป็นผู้ปกครองอยู่ในระดับต่ำสุด (ร้อยละ 9) ในขณะที่รัฐไอดาโฮเป็นรัฐที่มีจำนวน LGBT ที่เป็นผู้ปกครอง (Parents) มากที่สุด (ร้อยละ 44)
กลุ่มประชากรที่แสดงตนว่าเป็น LGBT มีแนวโน้มที่จะมีอายุน้อยกว่า มีรายได้ต่ำกว่า และมีความมั่นคงทางด้านอาหารน้อยกว่าประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ โดยร้อยละ 25 ของ LGBT มีรายได้ต่ำกว่าปีละ 24,000 เหรียญสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Williams Institute ตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มประชากรที่มีอายุน้อยมีการแสดงตนว่าเป็น LGBT และใช้ชีวิตแบบ LGBT มากกว่านั้น อาจเป็นเพราะว่าพวกเขาโตมาในตอนที่สังคมให้การยอมรับเรื่องนี้แล้ว

รายละเอียดอื่นๆ ของประชากรกลุ่ม LGBT จากการสำรวจครั้งนี้มีดังนี้
เพศ (biological sex) (%)
เชื้อชาติ (%)
ระดับการศึกษา
อย่างไรก็ดี ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Williams Institute กล่าวเพิ่มว่าในงานวิจัยอื่นที่มีการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลมากกว่าการสำรวจในครั้งนี้ พบว่ากลุ่มตัวอย่างเกือบร้อยละ 10 มีรสนิยมทางเพศที่มีการชอบเพศเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะไม่แสดงตนว่าเป็น LGBT ก็ตาม
ที่มาของข้อมูล: Williams Institute
ขอขอบคุณข่าวจาก: สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก