ทรัมป์ขยายเวลาระงับการออกวีซ่าทำงานและกรีนการ์ดจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2564

ประธานาธิบดีทรัมป์ออกคำสั่งขยายเวลาระงับการออกกรีนการ์ดและวีซ่าทำงาน โดยอ้างสาเหตุสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงรุนแรงอยู่ พร้อมทั้งเพิ่มกฎใหม่ให้ผู้ย้ายถิ่นรายใหม่ทุกคนต้องมีประกันสุขภาพและรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลด้วยตัวเอง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (7 ม.ค.) เรื่องการขยายระยะเวลาระงับการออกกรีนการ์ดและวีซ่าทำงานออกไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2564 สืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางยังได้ลงมติผ่านข้อกำหนดที่ระบุให้ผู้อพยพเข้าเมืองรายใหม่จะต้องมีประกันสุขภาพเป็นของตนเอง โดยที่ย้ายถิ่นฐานมายังสหรัฐฯ จะต้องได้รับความคุ้มครองภายใน 30 วันที่มาถึง และรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลเองในกรณีที่เกิดการเจ็บป่วย

คำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้นโยบายการการเข้าเมืองของสหรัฐฯ มีข้อจำกัดมากขึ้น และนโยบายของเขายังไม่ได้รับการสนับสนุนจากสภาคองเกรส อย่างไรก็ดี นายโจ ไบเดน ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีได้สัญญาว่า จะยกเลิกนโยบายหลาย ๆ อย่างที่ทรัมป์ประกาศเอาไว้ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะทำได้เร็วแค่ไหนและทำได้มากถึงเพียงใด

ก่อนหน้านี้ ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางได้กำหนดให้นโยบายการระงับการออกวีซ่าอันสืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หมดอายุในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (31 ธ.ค. 2563) ซึ่งตอนนี้ภาระเรื่องการตัดสินใจตกมาอยู่ที่ว่าที่ประธานาธิบดีไบเดน ว่าจะยกเลิกกฎนั้นเมื่อใดและจะยกเลิกหรือไม่ หลังจากเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ที่จะถึงนี้

ก่อนหน้านี้นายไบเดนไม่เคยได้กล่าวถึงนโยบายเรื่องกฎหมายการเข้าเมืองมาก่อนในช่วงหาเสียงของเขา และไม่เคยได้ระบุข้อกำหนดการประกันสุขภาพในในช่วงหาเสียงด้วยเช่นกัน

ในเดือนเมษายนเมื่อปีที่แล้ว ทรัมป์ได้กำหนดนโยบายระงับการออกกรีนการ์ดในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกในครอบครัวของคนที่อยู่ในสหรัฐฯ แล้ว และหลังจากนั้นไม่นานในเดือนมิถุนายน ทรัมป์ก็ประกาศเพิ่ม เรื่องการระงับวีซ่าประเภท H-1B ซึ่งบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีใช้กันอย่างแพร่หลาย ในการออกวีซ่าการจ้างงานให้กับพนักงานและครอบครัวของพวกเขา

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้ระงับการออกวีซ่า H-2B สำหรับคนงานตามฤดูกาลนอกภาคเกษตร วีซ่า J-1 สำหรับการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม (รวมถึงอาชีพพี่เลี้ยงเด็กในโครงการออแพร์ (au pair)) และวีซ่า L-1 สำหรับผู้จัดการและพนักงานตำแหน่งสำคัญอื่น ๆ ของบริษัทข้ามชาติ

ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะปกป้องตลาดการจ้างงานของชาวอเมริกันในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่จากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในขณะที่กลุ่มธุรกิจกล่าวว่า นโยบายของทรัมป์จะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.wsj.com/articles/trump-administration-extends-ban-on-h-1b-and-other-work-visas-green-cards-11609455695

335 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top