สถานทูตสหรัฐฯ เชิญภาคเอกชนเสวนาเรื่องการลงทุนในสหรัฐฯ หลังโควิด-19

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาจัดงานสัมมนาหนุนบริษัทไทยก้าวไกลทั่วโลก พร้อมเชิญภาคเอกชนไทยที่มีบทบาทลงทุนในต่างประเทศมาร่วมแลกเปลี่ยนทรรศนะและประสบการณ์ในการเข้าไปดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ พร้อมเผยแผนการลงทุนที่สหรัฐฯ หลังโควิด-19

เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนาออนไลน์เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา ภายใต้หัวข้อ “SelectUSA: หนุนบริษัทไทยก้าวไกลทั่วโลก” เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และไทย โดยมีผู้นำด้านธุรกิจและการเงินร่วมการสนทนาเพื่อช่วยเหลือบริษัทไทยในการขยายธุรกิจไปยังสหรัฐฯ และทั่วโลก

งานสัมมนาออนไลน์นี้ได้มีผู้บริหารองค์กรชั้นนำของไทยจากหลากหลายอุตสาหกรรมสำคัญเข้าร่วมในฐานะวิทยากร เช่น กลุ่มบริษัทอินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) เครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัทบ้านปู จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ต่างร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ด้านการลงทุนในสหรัฐฯ ทั้งเรื่องการวางแผน การเตรียมความพร้อม การดำเนินการ และผลที่ได้รับ

เอกอัครราชทูตดีซอมบรี ได้กล่าวว่า องค์กรธุรกิจไทยจำนวนไม่น้อยได้ขยายการลงทุนไปต่างประเทศ และหนึ่งในตลาดสำคัญคือสหรัฐฯ ซึ่งการจัดงานนี้ เป็นการเชิญธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จและมีบทบาทในระดับโลก เข้าร่วมสัมมนาเพื่อนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของภาคเอกชนไทยมาขับเคลื่อนธุรกิจในระดับโลก ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนมุมมองภาคธุรกิจไทยที่ได้ปรับตัวตามสถานการณ์หลังวิกฤตโควิด-19 ให้ได้ร่วมกันพัฒนาธุรกิจที่ควบคู่ไปกับความยั่งยืนร่วมกัน โดยคาดหวังว่าจะเป็นการแสวงหาโอกาส และความหวังร่วมกันในปี 2564 นี้

ด้านของการลงทุนในสหรัฐฯ นายบุญชัย โอภาสเอี่ยมลิขิต ประธานธุรกิจ-สหรัฐอเมริกา เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ซีพีได้เข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ โดย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เข้าซื้อหุ้น 100% ด้วยเม็ดเงิน 38,000 ล้านบาท ของบริษัท เบลลิซิโอ ฟู้ด อิ้งค์ (Bellisio) ผู้นำด้านการผลิตอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐฯ เมื่อปี พ.ศ.2559 เพื่อรองรับเทรนด์อาหารแช่แข็งทั่วโลกที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการลงทุนครั้งสำคัญของซีพี

นอกจากนี้ ทางซีพียังดำเนินตามเป้าหมายที่วางไว้กับการให้ประเทศไทยเป็น “ครัวโลก” โดยนอกจากการเข้าซื้อกิจการแล้ว ซีพียังได้สร้างธุรกิจใหม่อีก 2 แห่งในรัฐเทกซัสและฟลอริดาอีกด้วย ซึ่งรูปแบบดำเนินธุรกิจของซีพีในสหรัฐฯ นั้นให้ความสำคัญกับการต้องเข้าใจวิถีคนอเมริกัน ทำความเข้าใจด้านพฤติกรรม ทัศนคติและวัฒนธรรมอเมริกัน เพื่อที่จะได้เข้าใจการทำธุรกิจแบบอเมริกัน

นอกจากในภาคเอกชนแล้ว ในงานเสวนานี้ยังมีการเสนอมุมมองจากผู้ร่วมงานคนอื่นที่น่าสนใจ โดย ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การลงทุนของธุรกิจไทยในต่างประเทศมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ซึ่งกฎระเบียบการลงทุนในต่างประเทศมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเอื้ออำนวยให้เอกชนไทยสนใจขยายการลงทุนในสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มของภาคเอกชนขนาดใหญ่ ซึ่งตนมองว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ภาคเอกชนขนาดใหญ่จำเป็นต้องทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้เพื่อนำองคาพยพของธุรกิจขนาดกลางและเล็กในประเทศไทยเติบโตตามการขยายการลงทุนไปด้วย

สหรัฐฯ เป็นปลายทางการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ใหญ่กว่าประเทศใดในโลก โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมระหว่างปี 2560 – 2562 กว่า 4.46 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตดีซอมบรียังได้เชิญให้บริษัทไทยเข้าร่วมการประชุมออนไลน์ SelectUSA Investment Summit ประจำปี 2564 ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นเพื่อนำเสนอสหรัฐฯ ในฐานะปลายทางการลงทุนชั้นนำของโลก รวมทั้งเป็นเวทีเชื่อมโยงบริษัทต่างประเทศที่มีคุณภาพเข้ากับองค์กรด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งเสริมการลงทุนทางธุรกิจและการสร้างงาน

“สหรัฐฯ เป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับบริษัทไทยที่อยากจะเติบโตในตลาดโลก” เอกอัครราชทูตดีซอมบรีกล่าว

การประชุม SelectUSA Investment Summit ได้ดึงดูดนักลงทุนและตัวแทนองค์กรพัฒนาเศรษฐกิจนานาชาติแล้วหลายพันราย ซึ่งทำให้เกิดโครงการการลงทุนใหม่ ๆ กว่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งหล่อเลี้ยงงานกว่า 37,000 ตำแหน่งในสหรัฐฯ

260 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top