ไทยเตรียมเปิดโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลกขานรับนโยบายเศรษฐกิจสีเขียวของสหรัฐฯ

ความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ผ่านการกลับสู่เวทีโลกทั้งทางด้านเศรษฐกิจแบบพหุพาคีและการกลับมาให้ความร่วมมือกับการแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนโดยการกลับเข้าสู่ความตกลงปารีส  ผลักดันให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข็นนโยบาย Green Economy ออกมาเป็นแผนเร่งด่วน

ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา ไบเดนได้ประกาศระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เขามีแผนที่จะเปลี่ยนยานพาหนะทั้งหมดของหน่วยงานรัฐบาลกลางให้เป็น ‘รถยนต์พลังงานไฟฟ้า’ ที่ผลิตและประกอบโดยพลเมืองสหรัฐฯ ในสหรัฐฯ เท่านั้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งประธานาธิบดี (Executive Order) เรื่อง ‘Buy American’

นโยบาย Green Economy ของไบเดนชี้ให้เห็นแล้วว่า สหรัฐฯ เลือกที่จะกลับมาเป็นผู้นำไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเศรษฐกิจ แต่ยังเลือกที่จะกลับมาในฐานะผู้ที่ห่วงใยสภาพแวดล้อมของโลกอีกด้วย และนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจสีเขียวก็ไม่ใช่เพียงแต่สหรัฐฯ ที่ให้ความสนใจ ประเทศไทยเองก็ประกาศโมเดลเศรษฐกิจใหม่ด้วยเช่นกัน

นโยบาย “BCG Economy” ของรัฐบาลไทยก็ถูกคิดค้นออกมาเพื่อการพัฒนาธุรกิจที่ยั่งยืน เป็นแนวคิดการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมเป้าหมาย

เร็ว ๆ นี้ประเทศไทยกำลังจะมีโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อตอบสนองนโยบายเศรษฐกิจรักษ์โลกของทั้งสองประเทศ โดยเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รายงานความคืบหน้าของโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร ระบุว่า คืบหน้าแล้วกว่า 80% คาดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้กลางปี 64 เพื่อเสริมความมั่นคงพลังงานสะอาดของประเทศไทย

นายฉัตรชัย มาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำและพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า กฟผ. เร่งเดินหน้าก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร หรือโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ขนาดกำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ให้ทันตามแผน ก่อนดำเนินการต่อในเขื่อนอื่น ๆ ของ กฟผ. ให้ครบ 2,725 เมกะวัตต์ อย่างต่อเนื่อง ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580

ขณะนี้ โครงการฯ มีความคืบหน้าภาพรวมอยู่ที่ ร้อยละ 82.04 โดยได้ประกอบและติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนทุ่นลอยน้ำในเขื่อนสิรินธรชุดแรกแล้วเสร็จเมื่อสิ้นปี 2563 พร้อมเร่งเดินหน้าติดตั้งให้ครบ 7 ชุด เพื่อเตรียมทดสอบระบบไฟฟ้าของโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ตามแผนได้ในเดือนมิถุนายน 2564 ถือเป็นโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำแบบไฮบริดขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร หรือ Hydro-floating Solar Hybrid เป็นโครงการนำร่องแห่งแรกของ กฟผ. ที่ได้นำพลังงานหมุนเวียนสองประเภทจาก “พลังงานแสงอาทิตย์” และ “พลังน้ำ” มาผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสาน หรือเรียกว่า ระบบไฮบริด เพื่อลดข้อจำกัดของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอย่างใดอย่างหนึ่งที่การผลิตไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ โดยพัฒนาระบบควบคุมและบริหารจัดการพลังงาน เพื่อบริหารจัดการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งสองชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ต่อเนื่องยาวนาน และเสริมความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าของประเทศ

ถึงแม้ว่าความตั้งใจของ กฟผ. จะเริ่มต้นมาจากการผลิตพลังงานสะอาดให้ประเทศไทยได้ใช้ แต่จากกระแสเรื่อง Green Economy จากสหรัฐฯ ย่อมจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยและสหรัฐฯ การแสดงออกให้เห็นว่าประเทศไทยมีความห่วงใหญ่ด้านปัญหาภาวะโลกร้อนผ่านนโยบาย BCG Economy และโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอาจจะเป็นการเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่ถูกต้องของไทยก็เป็นได้

464 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top