เทรนด์ตลาดไอศกรีมและของหวานแช่แข็งทั่วโลกปี 2564

“ไอศกรีม” ของหวานเย็นหลากรสชาติและเป็นของโปรดของหลายคน ที่มักจะทำมาจากผลิตภัณฑ์นมและแต่งเติมความอร่อยด้วยผลไม้หรือส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อให้ได้รสชาติอันหลากหลาย ใช้รับประทานเป็นของว่างหรือของหวาน เพื่อเพิ่มความสุขให้กับคนที่รักในไอศกรีมจากความหอมเย็นชื่นใจและความหวานจากน้ำตาลหรือสารทดแทนน้ำตาล

แต่สถานการณ์การระบาดของ โควิด-19 ก็ส่งผลให้ตลาดการผลิตไอศกรีมและขนมแช่แข็งหยุดชะงักในปี 2563 เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก ซึ่งเกิดจากข้อจำกัดทางการค้าและการบริโภคที่ลดลง ภายหลังรัฐบาลทั่วโลกมีนโยบายล็อกดาวน์

เพราะความรุนแรงของโควิด-19 ที่ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มในการจัดหาวัตถุดิบจากทั้งภายในและต่างประเทศ เนื่องจากรัฐบาลหลายประเทศประกาศล็อกดาวน์และสั่งห้ามการเคลื่อนย้ายสินค้าข้ามประเทศและในประเทศ ผู้ผลิตจึงจำเป็นต้องหยุดการผลิตไปเนื่องจากไม่มีวัตถุดิบ และยังมีความท้าทายจากมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม การทำงานจากบ้าน และการปิดกิจกรรมทางการค้า

นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดสำหรับการซื้อขายสินค้าที่ไม่จำเป็น จากความกลัวการปนเปื้อนในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน  ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลเสียต่อธุรกิจอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2563 และในปี 2564 อย่างไรก็ดี มีการคาดการณ์ว่า ตลาดการผลิตไอศกรีมและขนมแช่แข็งจะฟื้นตัวจากภาวะช็อกทางเศรษฐกิจ

เว็บไซต์ Reportlinker.com เปิดเผยรายงาน “Ice Cream And Frozen Dessert Global Market Report 2021: COVID 19 Impact and Recovery to 2030” กล่าวถึงการขยายตัวของตลาดไอศกรีมและของหวานแช่แข็งทั่วโลกในปี 2564 รวมไปถึงผลกระทบและการฟื้นตัวของโควิด-19 จนถึงปี 2573 โดยระบุว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดไอศกรีมและขนมแช่แข็งทั่วโลกซึ่งรวมถึง Ben & Jerry’s; Dean Foods; Dreyer’s; Nestle และ Kwality จะเติบโตจาก 88.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 เป็น 95.36 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 7.6%

การเติบโตส่วนใหญ่เกิดจากการที่บริษัทต่าง ๆ ได้ปรับเปลี่ยนทิศทางการดำเนินงานและการฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 โดยมีการคาดการณ์ว่า ตลาดจะเติบโตสูงถึง 124.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี

จากสถิติ มีการคาดการณ์ว่า ประชากรโลกกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านคนภายในปี 2593 ซึ่งการเพิ่มขึ้นของประชากรทำให้เกิดความต้องการอาหารมากขึ้น และตามรายงาน “The Agricultural Outlook” ของ Organization for Economic Co-operation and Development (OECD) และ Food and Agriculture Organization (FAO) รายงานว่า แผนการผลิตธัญพืชทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 13% ภายในปี 2570 โดยปริมาณการค้าจะต้องเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น กลุ่มธุรกิจในตลาดไอศกรีมจึงคาดว่า จะได้รับประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงไอศกรีมและของหวานแช่แข็ง ตามที่คาดการณ์ไว้ด้วย

อ้างอิงข้อมูลจาก

3,813 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top