หัวใจที่รักในศิลปะและการออกแบบ สู่การสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อมอบความสุขแก่ผู้ให้และผู้รับในทุกโอกาส

ขนมอบสดใหม่ หอมกรุ่นจากเตาของร้านเบเกอรี่โฮมเมด Snack Swag ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา โดยคุณเมจิ สินีพร วชิรเดชกุล เชฟปาติซิเยร์ที่ได้รับการรับรองจาก Valencia College กับการเริ่มต้นจากความสนใจ ความชอบส่วนตัวในการรับประทานขนมหวาน และความตั้งใจในการสร้างสรรค์ผลงานขนมอบที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง

สำหรับในช่วงเวลาอันยากลำบากที่เริ่มในปีที่ผ่านมา ร้านของเธอก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เพราะในวันแรกที่มีการประกาศสถานการณ์โควิด-19 ลูกค้าได้ยกเลิกออเดอร์เกือบทั้งหมด แต่เมื่อเธอตั้งสติได้และลูกค้าเข้าใจได้ว่าการอยู่บ้านก็สามารถสั่งขนมอร่อย ๆ มารับประทานได้ ทำให้ในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ทางร้านขายดีมากกว่าปกติ และยังคงเป็นเช่นนั้นเรื่อยมา

จุดเริ่มต้นของการเดินทาง

คุณเมจิเล่าว่า เมื่อปี 2551 เธอได้เดินทางติดตามสามีของเธอมายังสหรัฐฯ และได้เข้าเรียนในสาขาการจัดการอาหาร เพียงเพราะต้องการลงเรียนในสาขาที่คนรักกำลังเรียนอยู่ แต่ในขณะที่เธอเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารอยู่นั้น ห้องเรียนข้าง ๆ ก็ได้มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับการอบขนมและเบเกอรี่ ซึ่งสามารถดึงความสนใจของเธอได้อย่างดีเยี่ยม และเธอก็ได้ตัดสินใจลงเรียนเพิ่มเติม จนได้ใบประกาศนียบัตรรับรองจากทั้ง 2 สาขา

“ตอนนั้นอายุ 28 เริ่มต้นเลยคือมาเรียนที่ออร์แลนโด ตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาเรียนอะไร เราไม่ได้มีความรู้ความชอบในเรื่องนี้เลย เราแค่ลงเรียน culinary ตามแฟน พี่ชายแฟนมีร้านอาหารไทยในออร์แลนโด จากนั้นก็เห็นว่าห้องข้าง ๆ เขาทำขนมกัน และเราคิดว่าน่าสนใจดี”

จากกราฟฟิกดีไซเนอร์/แฟชั่นสไตลิสต์สู่เชฟในต่างแดน

ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ทางด้านวิชาชีพเกี่ยวกับการทำอาหารหรือขนมหวานเลย เพราะงานประจำของเธอที่ประเทศไทยก่อนย้ายไปสหรัฐฯ นั้น คืองานออกแบบกราฟฟิกและงานด้านแฟชั่น ก่อนจบหลักสูตรเธอได้มีโอกาสเข้าไปฝึกงานและเรียนรู้ประสบการณ์บนเส้นทางนี้มากขึ้น มันทำให้เธอมีความสนใจที่ในอาชีพนี้เพิ่มขึ้น จนกระทั่งเกิดเป็น Snack Swag เมื่อปี 2557 แต่เป้าหมายของเธอไม่ใช่การมีร้านใหญ่โต เพื่อหาเงินให้ได้มาก ๆ แต่มันคือ การได้ลงมือทำในสิ่งที่เธอร่ำเรียนมา เพื่อดูว่าเธอจะสามารถทำมันออกมาได้ดีเพียงใด

“ตอนที่เรียนจบมาแรก ๆ เริ่มต้นจริง ๆ เลยคือเราไม่ได้คิดว่าเราจะเปิดร้าน เราเริ่มจากการทดลองทำในสิ่งที่เราเรียนมา เราแค่อยากสนุกกับมันมากกว่า เราเริ่มจากการทำแจก แค่อยากให้คนมีความสุข จนเมื่อปี 2559 ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่มีคนเอาเงินมาให้เรา เพื่อแลกกับการบริการของเรา ทางร้านเราขนมทำเองทั้งหมด เราไม่มีเมนูให้ลูกค้า เพราะลูกค้าจะเข้ามาบอกเราว่าต้องการอะไร และเราก็จะบอกลูกค้าไปว่าทำได้หรือไม่ได้”

อิสระในการทำงาน

ด้วยความเป็นศิลปิน คุณเมจิต้องการพื้นที่ในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างงานแต่ละชิ้นให้ออกมาดีที่สุด เพราะยิ่งลูกค้าให้พื้นที่กับเธอมากเท่าใด ความสุขในการทำงานของเธอก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

“ลูกค้าบางคนเขาไม่ได้รู้จักเรา เขาอาจจะเห็นงานของเราจากอินสตราแกรม เขายังไม่รู้ว่าเราทำงานอย่างไง เขาอาจจะบอกเราว่าอยากได้ดีไซน์แบบนั้นแบบนี้ อาจจะไม่ให้อิสระเราในการทำงาน เพราะว่าเขายังไม่รู้จักวิธีการทำงานของเรา อันนี้ก็จะเป็นอุปสรรคในการทำงานมาก เพราะมันทำให้เราไม่สามารถออกแบบงานได้อย่างเต็มที่”

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ “ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน” เพราะคุณเมจิเชื่อว่ามันคือตัวชี้วัดความยากง่ายของงาน

เมื่อถามว่า Snack Swag มีวิธีการจัดการ เพื่อสร้างสมดุลให้กับงานที่ทำอย่างไร คำตอบคือ “เวลา” เธอเชื่อว่าต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

มันยากมากที่จะบอกให้ลูกค้าเชื่อมั่นในตัวเราได้ เราไม่สามารถไปพูดโน้มน้าวลูกค้าได้ เราต้องทำให้เขาเห็นว่าผลงานเราเป็นแบบนี้ ต้องทำให้คนเปิดรับงานของเรา และเมื่อได้เห็นผลงานของเราแล้ว ก็จะพูดต่อ ๆ กันเองว่า “เขาไม่ได้เป็น ‘baker’ นะ เขาเป็น ‘artist’ คุณควรจะให้อิสระเขาในการออกแบบ”

ความสำเร็จที่เปลี่ยนไปจากจุดเริ่มต้น

เป้าหมายที่คุณเมจิตั้งเอาไว้ในตอนแรกก็คือ อยากจะทำขนมเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง อยากจะทำเพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเอง แค่อยากให้เพื่อน ๆ และคนที่เธอรู้จักได้มีความสุขด้วยงานของเธอ

“เป้าหมายที่เราตั้งไว้ในตอนแรกกับตอนนี้มันไม่เหมือนกัน เพราะตอนแรกเราไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะมีคนรู้จักร้านเรามากมายขนาดนี้ เราแค่อยากจะทำในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน แต่ตอนนี้เราทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะคนที่เข้ามาหาเราไม่ใช่แค่เพื่อนเรา มันกลายเป็นคนอื่น ๆ ที่ทั้งเราและลูกค้าก็ไม่ได้รู้จักซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นเป้าหมายของเราในตอนนี้ก็คือ เราต้องให้ความสำคัญกับการให้บริการลูกค้ามากขึ้น และทำอย่างไรให้เขาพอใจบริการของเรา ทำให้เขาบอกต่อและกลับมาหาเรา”

สิ่งที่ทำเป็นจุดแข็งครองใจลูกค้า 

“สำหรับคนที่อยากทำขนมแบบโฮมเมดเบเกอรี่ สิ่งสำคัญต้องเป็นใจรักอย่างเดียว ขออย่าทำเพราะคิดว่าฉันอยากจะรวย งานนี้เราต้องใช้ทักษะการออกแบบค่อนข้างเยอะ และการใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพราะมันจะมีส่วนทำให้เรามีงานที่แตกต่างจากคนอื่น และสามารถสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ของเราได้”

การไม่ตามกระแสจนเกินไป คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของเธอในวันนี้ รวมไปถึงการตั้งใจทำงานในสิ่งที่รัก การสร้างสรรค์ออกมาให้ดีที่สุด และต้องมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

“จริง ๆ แล้วการที่เราทำอะไรตามกระแส มันก็มีข้อดีตรงที่เราจะเกิดง่าย แต่เมื่อเราทำตามกระแส ธุรกิจของเรามันก็จะดับง่ายเหมือนกัน”

“ถ้าเราทำอะไรที่เราเป็นตัวตนของเราจริงๆ เป็นสิ่งที่เราอยากทำจริง ๆ มันก็จะอยู่ได้เรื่อยๆ คิดว่าอันนี้จะเป็นสิ่งสำคัญของ Snack swag”

611 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top