ศูนย์วิจัย Pew Research Center เผยว่า จำนวนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นถึง 81% และสูงกว่าชนชาติอื่น ด้านสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก ชี้กลุ่มคนเอเชีย-อเมริกัน เป็น “พลังซื้อ” ลูกใหม่ในสหรัฐฯ ที่น่าจับตามอง
จากรายงานวิเคราะห์ของ Pew Research Center โดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนักสำมะโนประชากรสหรัฐฯ พบว่า ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียมีอัตราการเติบโตของประชากรที่เร็วที่สุดในบรรดากลุ่มเชื้อชาติและชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ซึ่งทำการเก็บข้อมูลระหว่างปี 2543-2562 โดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 81% ในช่วงดังกล่าว จากจำนวนประมาณ 10.5 ล้านคนเป็น 18.9 ล้านคน และคาดการณ์ว่า ภายในปี 2603 จำนวนชาวเอเชียในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 35.8 ล้านคน ซึ่งมากกว่าตัวเลขที่สำรวจในปี 2543 ถึงสามเท่า
รายงานระบุว่า ประชากรชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียมีอัตราเพิ่มขึ้นในทุกรัฐและในเขตวอชิงตัน ดีซี ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยแคลิฟอร์เนียมีประชากรชาวเอเชียราว 5.9 ล้านคนในปี 2562 ซึ่งนับว่าเยอะที่สุดในสหรัฐฯ ตามมาด้วยนิวยอร์ก (1.7 ล้านคน) เทกซัส (1.5 ล้านคน) นิวเจอร์ซีย์ (870,000 คน) และอิลลินอยส์ (732,000 คน) และพบว่า 56% ของชาวเอเชียในสหรัฐฯ อาศัยอยู่ใน 5 รัฐนี้
รัฐที่มีจำนวนประชากรเชื้อสายเอเชียเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงระหว่างปี 2543 – 2562 คือแคลิฟอร์เนีย เทกซัส และนิวยอร์ก โดยการเติบโตของประชากรในทั้งสามรัฐนี้ คิดเป็น 43% ของการเติบโตของประชากรเอเชียโดยรวมในสหรัฐฯ โดยมีจำนวนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเพิ่มขึ้นกว่า 2 ล้านคนในแคลิฟอร์เนีย 883,000 คนในเทกซัส และ 617,000 คนในนิวยอร์ก ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีประชากรเอเชียเพิ่มขึ้นในเทกซัสมากกว่าในนิวยอร์กในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ยังมีชาวเอเชียจำนวนมากกว่าอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก
ส่วนรัฐที่มีอัตราการเติบโตของประชากรเอเชียอเมริกันสูงที่สุดระหว่างปี 2543 – 2562 คือนอร์ทดาโคตาและเซาท์ดาโคตา โดยเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าในช่วงเวลาดังกล่าว ในขณะที่ประชากรเชื้อสายเอเชียในรัฐ อินเดียนา เนวาดา และนอร์ทแคโรไลนา มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเช่นเดียวกัน คิดเป็น 183% 176% และ 175% ตามลำดับ
หลังจากรายงานนี้ถูกเผยแพร่ไปเมื่อวันที่ 9 เม.ย. สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโกได้มีบทวิเคาระห์พร้อมระบุว่า กลุ่มประชากรชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียจะกลายมาเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่มีพลังซื้อสูงในสหรัฐฯ โดยในปี 2562 ผู้บริโภคในสหรัฐฯ มีกำลังซื้อเพิ่มถึง 100% เมื่อเทียบกับปี 2542
ทั้งนี้ ผู้บริโภคผิวขาวถือเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักอันดับหนึ่งที่มูลค่า 13.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วยกลุ่มผู้บริโภคฮิสแปนิกที่ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และผู้บริโภคอเมริกันผิวดำที่ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในขณะที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียมีอำนาจการซื้ออยู่ที่ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 7.1% ของทั้งประเทศ และมีอัตราขยายตัวในอัตรา 314% เมื่อเทียบกับ 20 ปีที่ผ่านมา และคาดว่ากำลังซื้อจะเพิ่มเป็น 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566 นอกจากนี้ทางสำนักฯ ยังระบุว่า ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีกำลังซื้อมากที่สุดในสหรัฐฯ อยู่ที่ 82,900 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อครัวเรือน
ทางสำนักฯ ชี้ช่องทางและโอกาสของสินค้าไทยที่ต้องการมาบุกตลาดของผู้บริโภคกลุ่มนี้ว่า ขณะนี้สินค้าอาหารไทยได้รับความนิยมในสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก และผู้ผลิตหลายราย เช่น จีน มาเลเซียและสิงคโปร์ต่างหันมาผลิตสินค้าไทย โดยผู้ผลิตไทยสามารถผลิตสินค้าอาหารประเภทอื่นเช่นอาหารเกาหลี จีน หรือญี่ปุ่น เสริมกับสินค้าอาหารไทยที่ผลิตอยู่เพื่อเพิ่มรายได้
นอกจากนี้ ไทยควรผลักดันสินค้าที่ได้รับความนิยมให้เพิ่มมากขึ้น เช่น ข้าวหอมมะลิ น้ำปลา บะหมี่สำเร็จรูป เครื่องแกง เป็นต้น เพราะกลุ่มผู้บริโภคชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียรุ่นใหม่ชื่นชอบสินค้าเหล่านี้และนิยมจับจ่ายจากซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีการจัดวางสินค้าอย่างเป็นระบบมากขึ้น
อ้างอิงข้อมูลจาก