คุณจิมมี่เล่าว่า ทางร้านจ้างพ่อครัวแม่ครัวจากประเทศไทย และดำเนินการเรื่องเอกสารการทำงานให้ทั้งหมดอย่างถูกต้อง แทนที่จะใช้วิธีการดึงตัวพ่อครัวแม่ครัวจากร้านไทยในต่างประเทศ
“ตั้งแต่ที่เริ่มเปิดร้านแรก ๆ เราหาพ่อครัวแม่ครัวจากประเทศไทย แทนการตระเวนหาในพื้นที่แล้วเกิดปัญหาการแย่งตัว เราจึงใช้วิธีการสร้างคนของเราเอง เพราะพวกเขาจะอยู่กับเรายาว กลายเป็นว่าอยู่กับด้วยน้ำจิตน้ำใจ ไม่ได้อยู่กันเรื่องเงินแล้ว เพราะถ้าเราไปดึงคนมาจากร้านอื่น ร้านอื่นก็จะมาดึงตัวคนของเราไปได้เช่นกัน”
“เราโชคดีที่ได้ทุกคนมาทำงานในร้าน ทุกคนอยู่กับเราได้นาน เป็นสัญญาใจมากกว่าสัญญาเงิน พอเราทำงานเราก็จะเผื่อแผ่ไปถึงพนักงานของเรา เราเปิดให้พนักงานมาร่วมหุ้นกับเราในร้าน ทุกคนมีความเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเอง นอกจากเงินเดือนที่จะได้รับในแต่ละเดือน ในฐานะเจ้าของธุรกิจพวกเขาก็จะได้เงินปันผลในแต่ละเดือนด้วย พวกเราอยู่กันแบบครอบครัว และเมื่อคนในร้านมีความสุข พวกเขาก็จะไม่ลาออกไปทำงานที่อื่น”
“อีกสิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำงานในสหรัฐฯ ก็คือ ทุกอย่างที่นี่วางไว้ค่อนข้างจะเป็นระบบระเบียบ เราเน้นย้ำอยู่เสมอว่า พนักงานในร้านเราต้องเสียภาษีทุกอย่างให้ถูกต้อง ทุกคนต้องยอมเสียภาษีตามกฎหมาย เพราะในบั้นปลายของชีวิตทุกคนจะมีเงินจากรัฐบาลมาเลี้ยงดู”
ผลกระทบจากโควิด-19
สิ่งแรกที่คุณจิมมี่ทำเมื่อได้รับข่าวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดก็คือ เรียกประชุมพนักงานในร้าน และเพื่อนร่วมอาชีพ เพื่อหาทางออกร่วมกัน
“ตอนที่มีการสั่งล็อกดาวน์ยอมรับว่าตกใจ แต่ผมไม่ตัดสินใจเองคนเดียว เราคุยกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป ทุกคนจะปรับตัวกันอย่างไร ให้ทุกคนได้ออกความคิดเห็น เพราะเราไม่สามารถเป็นผู้นำได้ในยามวิกฤต โจรเรายังป้องกันได้แต่นี่มันเป็นเชื้อโรค เราจะป้องกันอย่างไร ขนาดเราป้องกันแล้วป้องกันอีก สุดท้ายพนักงานร้านเราก็ยังติดโควิด”
พนักงานในร้านติดโควิด 2 คน สิ่งที่คุณจิมมี่ทำคือ ประกาศผ่านเฟซบุ๊กถึงความจริงที่เกิดขึ้น และความจำเป็นที่จะต้องปิดร้านเป็นการชั่วคราว เพื่อให้พนักงานในร้านไปตรวจหาเชื้อครบทุกคนเสียก่อน
“ตอนเกิดเรื่องคนในร้านถามว่าเราบอกลูกค้าว่าอย่างไร ผมก็บอกความจริงไป เพราะถ้าเราไปโกหกลูกค้า แล้วมีใครคนหนึ่งไปพูดกับลูกค้า ความดีที่เราทำมาทั้งหมดมันก็จะกลายเป็นเรื่องโกหก เราต้องตัดสินใจที่จะพูดเรื่องจริงกับลูกค้าไปเลย ลูกค้ารับได้หรือไม่ได้ไม่เป็นไร สุดท้ายลูกค้าเขาก็ขอบคุณเรา ที่เราพูดความจริงและเราเองก็มีความสุขไปด้วยที่ได้พูดความจริงออกไป”
ทางร้านประสบปัญหาในช่วง 2 เดือนแรก ที่มีการแพร่ระบาดและล็อกดาวน์ แต่เมื่อทุกคนสามารถปรับตัวได้ ยอดขายอาหารของทางร้านก็กลับมาเป็นปกติ และพุ่งสูงขึ้นกว่าก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดอย่างไม่น่าเชื่อ
“ทางร้านเราโชคดีตอนที่เกิดโควิด รัฐบาลให้เงินเรามาเยอะมาก จากเงินภาษีที่เราจ่ายไป ในขณะที่บางร้านบอกว่าทำไมไม่ได้เงินเยียวยาเลย นั่นก็เพราะว่าคุณไม่ได้เสียภาษีให้ถูกต้อง จึงอยากฝากเอาไว้ เพราะสุดท้ายเราอยู่ในประเทศที่เขามีระบบช่วยเหลือที่ดีมาก พอเราเสียภาษีถูกต้องทุกอย่าง เขาก็จะเห็นยอดที่เราจ่ายเข้าไปในระบบ และเขาก็จะช่วยเหลือเราได้อย่างรวดเร็ว”
ความสำเร็จและเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ
“ถามผมตอนนี้ผมคิดว่า ณ ปัจจุบันทุกอย่างมันเลยความฝันมาเยอะแล้ว เพราะผมเคยฝันเพียงว่าอยากได้เงินจากงานที่ทำ “พอกินพอใช้” จากนั้นก็ขอให้ “มีกินมีใช้” ตอนหลังขอให้ “มีกินมีเก็บ” แต่ ณ วันนี้เราเดินมาไกลมากกว่าการมีกินมีเก็บแล้ว ผมเลยเปลี่ยนความคิด ให้เป็นวันนี้เราจะทำอย่างไรเพื่อที่จะแบ่งปันผู้อื่นได้บ้าง”
“ความซื่อสัตย์คือเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ เราเอาเรื่องจริงไปพูดกับลูกค้า อย่างเช่น ลูกค้าบอกว่าอาหารจานนี้ไม่อร่อย วิธีการของผมคือ เราจะยังคงวางของที่ลูกค้าบอกว่าไม่อร่อยไว้บนโต๊ะ แล้วทำจานใหม่มาเปลี่ยนให้ เมื่อลูกค้าถูกใจอาหารจานใหม่ ทางร้านถึงจะเก็บจานเก่าไปทิ้ง ผมจะไม่เอาอาหารลูกค้าไปซ่อม เพราะถ้าอาหารไม่อร่อย ซ่อมยังไงก็ไม่อร่อยอยู่ดี และคุณภาพอาหารก็จะเสียไปด้วย หรือในกรณีที่มีอาหารที่ลูกค้าแพ้อยู่ในจาน เราก็จะทำให้ใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่เขี่ยส่วนที่ลูกค้าแพ้ออก เราต้องซื่อสัตย์กับลูกค้าให้ได้ ลูกค้ามีความสุข เราก็มีความสุข และความสุขก็จะอยู่กับเราตลอดไป”
ฝากถึงคนไทยที่อยากทำอาชีพนี้
“ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญ เราต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ซื่อสัตย์ต่อพนักงาน ซื่อสัตย์ต่อหุ้นส่วน และทุกคน อย่างผมคือพูดความจริง พูดตรง ๆ กับทุกคน สิ่งที่เราพูดกับลูกค้า เราก็จะกล้าพูดกับลูกน้อง สิ่งที่เราพูดกับลูกน้อง เขาก็จะสามารถเอาไปพูดกับลูกค้าได้”
“ยอมรับว่าอาหารร้านเราค่อนข้างแพง พอมีคนถามว่าทำไมร้านเราขายแพง เราก็จะบอกไปตรง ๆ ว่า ถ้าจะให้ขายอาหารราคาถูกเหมือนที่อื่นเราทำไม่ได้ เพราะเราต้องจ่ายเงินให้พนักงานตามกฎหมาย เสียภาษี และเราไม่แข่งขันที่ราคา เพราะผัดไทยของผม 1 จาน สามารถช่วยเหลือคนในร้านได้อีกกว่า 20 ครอบครัว”
“สุดท้ายอยากขอฝากว่า งานทุกงานมีหลากหลายปัญหา แต่เราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ ถ้าเราซื่อสัตย์กับลูกค้า ซื่อสัตย์กับทุกคน เราก็จะผ่านจุดนั้นไปได้
ข้อมูลเพิ่มเติมของร้าน