ผู้บริโภคสหรัฐฯ อาจประสบภาวะขาดแคลนน้ำมัน หลังสถานีบริการน้ำมันมีปัญหาด้านการขนส่ง

เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้วที่ประชากรทั่วสหรัฐฯ ต้องถูกจำกัดการเดินทาง และการใช้วิถีชีวิตประจำวันแบบดั้งเดิม ภายใต้มาตรการล็อคดาวน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ล่าสุดสถานการณ์กำลังปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ชาวอเมริกันกำลังออกเดินทางอีกครั้ง ไม่ว่าจะเพื่อการกลับไปทำงานที่สำนักงานหรือเพื่อการพักผ่อนที่พวกเขาไม่มีโอกาสได้ทำมาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ดี แผนการเดินทางอาจต้องชะงักในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง

วิกฤติในครั้งนี้แตกต่างจากวิกฤติขาดแคลนพลังงานในช่วงยุค 1970 (twin oil shocks of 1973 and 1979) เพราะปัจจุบันสหรัฐฯ มีอุปทานเชื้อเพลิงที่เพียงพอ แต่สิ่งที่ขาดแคลนในวิกฤติการณ์นี้คือ พนักงานขับรถบรรทุกที่ต้องรับเชื้อเพลิงจากโรงกลั่นไปส่งยังสถานีบริการ โดยจากข้อมูลของกลุ่มการค้ากลุ่มหนึ่งพบว่า รถบรรทุกน้ำมันเกือบ 1 ใน 4 ของประเทศในขณะนี้ ไม่ได้ถูกใช้งานเนื่องจากไม่มีคนขับรถบรรทุกเหล่านั้น

“ตอนนี้เรามีปัญหาการขาดแคลนคนขับรถบรรทุกมากกว่า 50,000 คนแล้ว และนั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาเท่านั้น” National Tank Truck Carriers (NTTC) สมาคมตัวแทนอุตสาหกรรมรถบรรทุกกล่าว

“ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมรถบรรทุกไม่ได้จำกัดเฉพาะคนขับรถเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงพนักงานประจำและพนักงานที่ทำงานในสำนักงานของบริษัทขนส่งสินค้าอีกด้วย นอกจากนี้ ช่างซ่อมรถที่ผ่านการฝึกอบรมก็ขาดแคลนเช่นกัน โดยธุรกิจรถบรรทุกน้ำมันต้องเผชิญกับการขาดแคลนผู้ตรวจสอบที่ได้รับการขึ้นทะเบียนและวิศวกรด้านการออกแบบ ซึ่งสามารถตรวจสอบและซ่อมแซมรถพ่วงบรรทุกน้ำมันได้”

เมื่อเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ เข้าสู่การล็อคดาวน์อย่างเต็มรูปแบบ ประชากรหลายล้านคนตกงานและอีกหลายคนเริ่มทำงานจากที่บ้าน ส่งผลให้อุตสาหกรรมการเดินทางได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ในขณะที่การคมนาคมขนส่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิตามหัวเมืองหลัก ๆ  เช่น นครลอสแอนเจลิส ชิคาโก และนิวยอร์ก ลดลงมากถึง 80% (ข้อมูลจากบริการการติดตามของ TomTom)

และสำหรับผู้ที่ยังคงเดินทางอยู่บนท้องถนน ข่าวดีก็คือ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงเหลือเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อแกลลอนในบางพื้นที่ของประเทศ แต่ล่าสุดราคาน้ำมันกำลังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากชาวอเมริกันจำนวนมากเริ่มกลับมาขับรถกันอีกครั้ง โดยชาวอเมริกันจำนวนมากได้ออกเดินทางโดยรถยนต์ในช่วงเทศกาล Easter และเทศกาล Passover มากกว่าช่วงวันหยุดใด ๆ นับตั้งแต่การระบาดใหญ่เริ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา บริษัท American Automobile Association (AAA)  รายงานว่า ผู้ขับขี่รถยนต์จ่ายเงินโดยเฉลี่ย 2.88 ดอลลาร์สหรัฐต่อแกลลอนสำหรับน้ำมันไร้สารตะกั่ว และผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ราคาเชื้อเพลิงจะยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด เริ่มมีรายงานปัญหาการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงในฟลอริดา แอริโซนา และมิสซูรี เนื่องจากขาดคนขับรถบรรทุกน้ำมัน และสิ่งที่น่ากังวลกว่านั้นก็คือการหาเชื้อเพลิงได้ยากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง

American Trucking Association (ATA) ได้กล่าวถึงปัญหาการขาดแคลนคนขับรถบรรทุกมีเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาว่า คนขับรถรุ่นเก่ากำลังจะเกษียณอายุและต้องเผชิญกับชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน ประกอบกับค่าจ้างที่ค่อนข้างต่ำจึงเป็นเรื่องยากที่จะรับสมัครคนใหม่

ATA กล่าวว่า อัตราการลาออกที่สูงเป็นความท้าทายที่เพิ่มขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมรถบรรทุก โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ อัตราการลาออกจากธุรกิจผู้ให้บริการรถบรรทุกขนาดใหญ่ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 94% เพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสแรกของปี 2560 ซึ่งอัตรานี้แตกต่างกันไปในแต่ละบริษัทและขึ้นอยู่กับประเภทของผู้ขับขี่ขนส่งสินค้า แต่ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า คนขับรถบรรทุกน้ำมันประมาณ 70% ลาออกจากธุรกิจหรือเปลี่ยนงานในช่วงที่มีการแพร่ระบาด

นอกจากนี้ ปัญหาที่ซับซ้อนกว่านั้นคือ ไม่ใช่ว่าทุกคนที่มีใบอนุญาตขับขี่รถ 18 ล้อ จะสามารถขับรถบรรทุกน้ำมันได้ โดยนอกเหนือจากใบอนุญาตการค้าขั้นพื้นฐานแล้ว ผู้ขับขี่จำเป็นต้องได้รับการรับรองเพิ่มเติมในการขับรถบรรทุกวัตถุอันตรายด้วย

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ร่างระเบียบข้อบังคับใหม่ของรัฐบาลกลางระบุว่า ผู้ขับขี่ที่มีปัญหาเสพติดแอลกอฮอล์หรือยาเสพติดไม่สามารถขอใบอนุญาตได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีผู้ขับรถบรรทุกมากถึง 60,000 คนที่ไม่สามารถต่อใบอนุญาตขับขี่ได้

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า เนื่องจากรถบรรทุกน้ำมันจำนวนมากถูกจอดอยู่เฉย ๆ อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงเมื่อฤดูร้อนมาถึง เนื่องจากการผ่อนปรนนโยบายในการเดินทาง และการแจกจ่ายวัคซีนที่ทั่วถึง ทำให้ผู้คนต่างออกเดินทางอีกครั้ง นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องพบเจอกับสถานให้บริการน้ำมันที่ไม่มีน้ำมันขาย แต่สถานการณ์ครั้งนี้ต่างจากในอดีต เพราะสหรัฐฯ มีน้ำมันมากเพียงพอ แต่ปัญหาคือน้ำมันเหล่านั้นไม่สามารถถูกแจกจ่ายไปยังสถานบริการน้ำมันอย่างทั่วถึงได้

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://www.nbcnews.com/business/consumer/shortage-delivery-drivers-means-gas-station-pumps-could-run-dry-n1265673

481 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top