รัฐบาลสหรัฐฯ จัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเพื่อช่วยเหลือธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

รัฐบาลสหรัฐฯ จัดตั้งโครงการ Restaurant Revitalization Fund (กองทุนฟื้นฟูร้านอาหาร) ซึ่งเป็นโครงการแรกที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยฟื้นฟูร้านอาหาร บาร์ และธุรกิจบริการอาหารอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะ โดยโครงการนี้ได้รับอนุมัติจากรัฐสภาสหรัฐฯ ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้รับการอนุมัติร่างกฎหมายเมื่อเดือนที่ผ่านมา

National Restaurant Association รายงานว่า ยอดขายของร้านอาหารและบาร์ในสหรัฐฯ เมื่อปีที่ผ่านมามีมูลค่า 6.59 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเกือบหนึ่งในสี่จากปี 2562 และมีบาร์และร้านอาหารมากกว่า 110,000 แห่งต้องปิดทำการชั่วคราว

กลุ่มเจ้าของธุรกิจร้านอาหารใช้ความพยายามในการเจรจากับรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นเวลาหลายเดือน ในการขอให้รัฐบาลช่วยจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือสำหรับภาคอุตสาหกรรมร้านอาหารโดยเฉพาะ โดยให้เหตุผลว่า ข้อกำหนดที่จำกัดและห้ามรับประทานอาหารภายในร้านเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโควิด-19 ส่งผลเสียต่อการทำธุรกิจของพวกเขาเป็นอย่างมาก

ข้อมูลจาก Small Business Administration (SBA) ระบุว่า ภายใต้โครงการฯ ผู้รับเงินช่วยเหลือมีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินทุนเทียบเท่ากับรายได้ที่สูญเสียไปในช่วงระหว่างการแพร่ระบาดของโรค มีมูลค่าสูงสุดที่ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อธุรกิจ และในส่วนของธุรกิจที่ประกอบกิจการเแบบไม่มีสาขา สามารถขอรับเงินช่วยเหลือได้ไม่เกิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย SBA ได้เปิดระบบรับยื่นเอกสารเพื่อขอเงินช่วยเหลือตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ภายหลังจากที่มีการประกาศโครงการสำหรับร้านอาหาร SBA ได้ยังได้เปิดตัวโครงการ Shuttered Venue Operators Grant เพื่อช่วยอุตสาหกรรมงานแสดง เช่น ละครเวที คอนเสิร์ต อีเว้นต์ส่งเสริมการขาย ภายใต้งบประมาณ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินช่วยเหลือในอัตราร้อยละ 45 ของรายได้ หรือไม่เกินรายละ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กองทุนฟื้นฟูร้านอาหารนี้ เป็นความช่วยเหลือเพิ่มเติมภายใต้การดูแลของ SBA โดยโครงการที่ใหญ่ที่สุด ได้แก่ Paycheck Protection Program ซึ่งได้อนุมัติจัดสรรเงินกู้แก่เจ้าของกิจการขนาดย่อมแล้วจำนวน 5.1 ล้านราย รวมมูลค่าประมาณ 2.49 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล ณ วันที่ 25 เม.ย. 2564)

นอกเหนือจากร้านอาหารและบาร์แล้ว SBA ยังอนุญาตให้รถจำหน่ายอาหาร ผู้ให้บริการด้านอาหาร คาเฟ่ โรงกลั่นเบียร์ และโรงแรมขนาดเล็ก รวมไปถึงเจ้าของธุรกิจที่มีไม่เกิน 20 สาขา หรือเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ สามารถสมัครขอรับเงินช่วยเหลือได้ แต่ไม่รวมบริษัทกำจัดมหาชน และสถานที่แสดงดนตรีสด

หลังจากที่หลายรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยอดขายของร้านอาหารหลายร้านก็เริ่มปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากที่ลดฮวบในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ดี ธุรกิจอาหารยังคงประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยมีร้านอาหารเกือบ 14,200 แห่ง ปิดทำการในช่วงระหว่างเดือน ม.ค.-มี.ค. ในปีนี้ ตามข้อมูลอ้างอิงจากบริษัทวิจัยตลาด Datassential

แพทริค เคลลี่ เจ้าหน้าที่ฝ่าย Capital Access ของ SBA กล่าวว่า เงินช่วยเหลือภายใต้โครงการนี้มีแนวโน้มที่จะหมดลงในระยะแรก และผู้สมัครที่มีสิทธิทั้งหมดอาจจะไม่ได้รับเงิน โดยหน่วยงานกำลังดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า การจัดสรรเงินช่วยเหลือให้แก่เจ้าของธุรกิจจะเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด และหากงบประมาณที่จัดสรรมาหมดลง รัฐสภาสหรัฐฯ จะต้องจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนให้โครงการดำเนินต่อไป

SBA กล่าวว่า จะพิจารณาจัดสรรเงินทุนแก่กลุ่มที่มีความสำคัญในลำดับต้น ๆ ก่อนในช่วง 21 วันแรกของโครงการ ได้แก่ ธุรกิจที่เป็นเจ้าของโดยสตรี ทหารผ่านศึก หรือผู้ที่ด้อยโอกาสทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยหลังจากนั้น หน่วยงานจะจัดสรรเงินทุนให้แก่ผู้สมัครอื่น ๆ ตามลำดับที่สมัครต่อไป

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://www.wsj.com/articles/restaurants-can-tap-29-billion-covid-19-aid-program-beginning-may-3-11619514690?mod=hp_lead_pos6

518 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top