ผลสำรวจจาก Inmar Intelligence ผู้ให้บริการพัฒนาธุรกิจพบว่า นักช้อปปิ้งในสหรัฐฯ ทยอยกลับมาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ร้านขายของชำแล้ว หลังจากชาวอเมริกันกว่าร้อยละ 40 ได้รับวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 แล้ว โดยจากการศึกษาพบว่า หลังได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว ร้อยละ 27 ของผู้บริโภควางแผนที่จะซื้อของชำส่วนใหญ่ที่ร้านค้า ในขณะที่ร้อยละ 38 เลือกที่จะช้อปปิ้งทั้งในร้านค้าและทางออนไลน์ต่อไป
Inmar Intelligence ระบุว่า ผู้ซื้อผลิตภัณฑ์อาหารส่วนใหญ่กลับมาซื้อของตามห้างและร้านค้ากันมากขึ้นแล้ว ล่าสุดพบว่า ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ร้อยละ 33 ได้กลับมาซื้อของชำโดยตรงจากร้านค้า โดยร้อยละ 48 ของผู้ตอบแบบสอบถามยังคงเป็นผู้ซื้อที่มีพฤติกรรมการจับจ่ายทั้งสองแบบคือ ซื้อของตามร้านและซื้อทางออนไลน์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการกลับสู่การใช้ชีวิตสภาวะปกติ
“เนื่องจากปัจจุบันมีการแจกจ่ายวัคซีนอย่างทั่วถึงมากขึ้น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ซื้อจะเลือกกลับเข้าไปใช้บริการในร้านอย่างที่เคยทำเป็นกิจวัตร” สเปนเซอร์ บาร์ด รองประธานบริหารของ Inmar กล่าว “ผู้บริโภคส่วนใหญ่คุ้นเคยกับประสบการณ์การช้อปปิ้งในร้าน การเดินชมสินค้าไปรอบ ๆ การค้นพบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และมีสินค้าบางอย่างที่ผู้ซื้อยังนิยมซื้อในร้านค้า”
สิ่งที่น่าสนใจคือถึงร้อยละ 51 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า พวกเขายังคงวางแผนที่จะกักตุนของชำตลอดทั้งปี เช่น กระดาษชำระ อุปกรณ์ทำความสะอาด เจลทำความสะอาดมือ อาหาร และแอลกอฮอล์ เหมือนที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนทำในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด
แม้ผู้คนจะเริ่มสนใจกลับไปซื้อของในร้านมากขึ้น แต่ผู้บริโภคก็ยังไม่ละทิ้งการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ร้อยละ 41 ของผู้ตอบแบบสอบถามได้สั่งซื้อของชำทางออนไลน์ ทั้งสำหรับการจัดส่งและการรับสินค้าด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม การขายของชำทางออนไลน์ยังคงเผชิญกับปัญหาหลายอย่าง โดยจากการสำรวจพบว่า ค่าธรรมเนียมการส่งสินค้า เป็นปัญหาที่ผู้บริโภคกังวลมากที่สุด (18%) ตามด้วยคุณภาพของการจัดส่งจากร้าน (16%) และช่วงเวลาว่างในการจัดส่ง (14%)
นอกจากนี้ ชาวอเมริกันยังมีความต้องการที่จะกลับไปรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มมากขึ้นอีกโดยผู้บริโภคร้อยละ 85 กล่าวว่า พวกเขาวางแผนที่จะไปรับประทานอาหารนอกบ้านบ่อยขึ้น
“เมื่อผู้บริโภคมุ่งหน้ากลับไปที่ซื้อของที่ร้าน พวกเขาวางแผนที่จะกักตุนสินค้าในชีวิตประจำวันต่อไป ซึ่งบ่งบอกถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมในระยะยาว” บาร์ดกล่าวเสริม “ ผู้ค้าปลีกต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวนี้ ไม่เพียงแต่ในแง่ของการสต็อกสินค้าให้เพียงพอเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการมอบประสบการณ์การใช้งานแบบ omnichannel ให้แก่ผู้ซื้อแบบผสมผสานด้วยช่องทางติดต่อที่หลากหลาย โดยเน้นความสะดวกสบาย และประหยัดค่าใช้จ่ายในระหว่างการเดินทางไปซื้อของชำแต่ละครั้ง”
อ้างอิงข้อมูลจาก