ภายในปี 2568 ผู้ให้บริการจัดส่งอาหารตามสั่ง อาทิ DoorDash, Instacart และ Uber Eats กำลังจะมียอดขายแซงหน้าผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในตลาดอีคอมเมิร์ซ จากการรวบรวมข้อมูล Retail Insightโดยบริษัท Edge By Ascential ผู้ให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซ
บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลในรายงาน “Sizing the Delivery Intermediary Opportunity” โดยคาดการณ์ว่า มูลค่ารวมของสินค้าหรือยอดขายในช่วงเวลาที่กำหนด (gross merchandise value – GMV) ที่ซื้อขายผ่าน Instacart และ Uber Eats จะเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเป็น 27,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 27,580 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ ภายในปี 2568 แซงหน้า Target.com ซึ่งคาดว่า ยอดขาย GMV จะเพิ่มขึ้นเป็น 24,440 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 จาก 14,870 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563
บริษัทฯ ได้กล่าวว่า ยอดขายบน 2 แพลตฟอร์มที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากที่ Instacart ได้ขยายขอบเขตกิจการเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากบริการรับส่งของชำ ในขณะที่ Uber Eats ได้ขยายกิจการจากบริการรับส่งอาหารจากร้านค้า ไปสู่การรับส่งของชำเพิ่มเติมด้วย
ในขณะเดียวกัน DoorDash ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันที่ให้บริการจัดส่งอาหารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ กำลังจะแซงหน้า eBay.com ภายในปี 2568 และกลายมาเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่เป็นอันดับสามของสหรัฐฯ รองจาก Amazon.com และ Walmart.com
การขยายตัวของ DoorDash สู่บริการรับส่งของชำในฤดูร้อนปีที่แล้ว และการร่วมมือกับผู้ค้าปลีกในหมวดอื่น ๆ คาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขาย GMV เป็น 48,570 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 มากกว่าสองเท่าของยอดขายในปี 2563 ที่ 22,340 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บริษัทฯ คาดการณ์ว่า ยอดขาย GMV ทางอีคอมเมิร์ซของ Amazon ในปี 2563 – 2568 จะเพิ่มขึ้นจาก 277,940 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 498,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (รวมถึงยอดขายออนไลน์และออฟไลน์) และยอดขายของ Walmart จะเพิ่มจาก 29,650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 61,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (รวมถึงยอดขายออนไลน์และออฟไลน์และยอดขายของ Sam’s Club แต่ไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิง)
“อีคอมเมิร์ซกำลังเติบโตและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พฤติกรรมผู้บริโภคและพฤติกรรมการจับจ่ายซื้อของเปลี่ยนไปตลอดกาลจากผลกระทบของโควิด-19 และตอนนี้เรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในช่วงรูปแบบการค้าปลีกแห่งอนาคต” เดเรน เบเกอร์ ซีอีโอของ Edge by Ascential กล่าว “ตลาดตัวกลางในการจัดส่งเป็นพื้นที่ที่น่าตื่นเต้นและมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว อย่างการควบรวมและซื้อกิจการครั้งใหญ่ การประกาศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของตลาด และคู่แข่งรายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น ที่มีรูปแบบธุรกิจใหม่ที่ดึงดูดสายตาของบริษัทร่วมทุน”
บริษัทฯ ประมาณการว่า ยอดขาย GMV ของสหรัฐฯ ของธุรกิจผู้ให้บริการจัดส่งอาหารตามสั่งจะเพิ่มขึ้นจาก 63,830 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 เป็น 138,770 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 และมีอัตราการเติบโตต่อปี 16.8%
อัตราการเติบโตดังกล่าว สูงกว่าตลาดอีคอมเมิร์ซเกือบ 1.7 เท่า ซึ่งคาดว่าจะเติบโตที่ 10.1% จาก 516,830 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 เป็นเกือบ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 ในขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งยอดขายออนไลน์จากบริการขนส่งในรูปแบบจากร้านถึงปลายทาง (last-mile delivery platforms) ที่เป็นพันธมิตรกับร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และผู้ค้าปลีกที่ไม่ใช่อาหาร จะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 5.4% ในปี 2563 เป็น 11.2% ในปี 2568
ในตลาดค้าปลีกของชำ ตลาดการจัดส่งแบบ on-demand มีการเติบโตเกือบ 150% เป็น 76,270 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 แม้ว่าข้อจำกัดของโควิด-19 จะค่อยๆ หมดลง และเศรษฐกิจจะกลับมาเปิดอีกครั้งก็ตาม Edge Retail Insight กล่าว DoorDash คาดว่า จะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดการจัดส่งของชำในสหรัฐฯ ได้ในสัดส่วน 1 ใน 3 ภายในปี 2568 ในขณะที่ Uber และ Instacart จะมีส่วนแบ่งเจ้าละประมาณ 20%
“ในขณะที่ผู้ค้าปลีกจำนวนมากขึ้นกำลังทำงานร่วมกับธุรกิจตัวกลางเหล่านี้ เพื่อประหยัดต้นทุนในการขยายขีดความสามารถในการดำเนินการตามคำสั่งซื้ออย่างรวดเร็ว เราจึงเห็นว่าพวกเขากลายเป็นจุดสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของนักช้อป” เซียน หวัง รองประธานของ Edge Retail Insight กล่าว
“แบรนด์ต่าง ๆ ต้องเริ่มปฏิบัติกับธุรกิจตัวกลางในฐานะลูกค้า เพื่อให้สร้างความโดดเด่นให้แบรนด์ของตนบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ การจัดส่งแบบ on-demand จะเป็นช่องทางย่อยหลักในการค้าปลีกในอนาคต และแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Packaged Goods – CPG) จะต้องดูว่า จะต้องเป็นพันธมิตรกับธุรกิจใด พร้อมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ กำหนดราคา และกลยุทธ์การส่งเสริมการขายที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดลูกค้าบนแพลตฟอร์มเหล่านี้”
อ้างอิงข้อมูลจาก