รัฐเท็กซัส แอริโซนา ยูทาห์ และไอดาโฮ กำลังฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังสูญเสียการจ้างงานและรายได้ในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดโควิด-19 และคาดว่า อีกกว่า 10 รัฐกำลังจะตามรอยเป็นไปในทิศทางเดียวกันในช่วงกลางปี
เท็กซัส แอริโซนา ยูทาห์ และไอดาโฮ ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของจำนวนประชากร ทั้งในช่วงก่อนและระหว่างการระบาด โดยเห็นได้จากการเติบโตของการทำบัญชีเงินเดือน (payroll) ในภาคธุรกิจต่าง ๆ เช่น ค้าปลีก คลังสินค้า เทคโนโลยี และคมนาคม หลายบริษัทย้ายฐานการผลิตไปยังรัฐเหล่านี้ ซึ่งทำให้แรงงานย้ายตามไปด้วยเช่นกัน โดยรัฐเหล่านี้มีการลดหย่อนข้อจำกัด/ข้อบังคับเกี่ยวกับโควิต-19 ในระหว่างการแพร่ระบาด ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ว่า มีส่วนช่วยบรรเทาปัญหาทางเศรษฐกิจลง
การย้ายฐานการทำธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงจำนวนประชากร
“ทั้งสี่รัฐนั้นมีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด” Adam Kamins ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจภูมิภาคของ Moody’s Analytics กล่าว “คนย้ายจากเมืองตามชายฝั่งที่มีค่าครองชีพสูง มายังเมืองที่มีค่าครองชีพค่อนข้างต่ำ แต่คุณภาพชีวิตดีกว่า เช่น ดัลลัส และฟีนิกซ์”
จากการประเมินล่าสุดของสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรแห่งชาติของสหรัฐฯ รัฐไอดาโฮ ยูทาห์ มอนทานา และแอริโซนา เป็นสี่รัฐที่มีเปอร์เซ็นต์การเติบโตของจำนวนประชากรสูงสุด เริ่มจากเดือนกรกฎาคม 2563 ถึงกรกฎาคม 2564 ในขณะที่เท็กซัสมีจำนวนตัวเลขของการเติบโตมากที่สุดในช่วงเวลาเดียวกัน ถึง 310,000 คน
ในส่วนของการจ้างงาน ในช่วงมีนาคมและเมษายน 2563 สหรัฐฯ สูญเสียการจ้างงานกว่า 22 ล้านตำแหน่ง และปลายปี 2564 การจ้างงานยังคงน้อยกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ถึง 3.6 ล้านตำแหน่ง
แต่จากสถิติของรัฐเท็กซัสในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 กลับมีการจ้างงานมากขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ปีเดียวกันถึง 28,000 ตำแหน่ง ส่วนแอริโซนามีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเกือบ 5,000 ตำแหน่ง ไอดาโฮเพิ่มขึ้น 14,500 ตำแหน่ง และยูทาห์เพิ่มขึ้นมากถึง 61,000 ตำแหน่ง
Adam Kamins คาดว่า ก่อนกลางปี 2565 หนี่งในสามของรัฐทั้งหมดในสหรัฐฯ จะกลับเข้าสู่สภาวะการจ้างงานเทียบเท่าระดับก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยแคลิฟอร์เนียและบางรัฐในแถบตะวันออกเฉียงเหนือจะฟื้นตัวกลับมาช้ากว่า เนื่องจากจำนวนประชากรในรัฐชายฝั่งทั้งตะวันออกและตะวันตกขาดการเติบโต
มาตรการรับมือโควิด-19 มีส่วนในการกลับมาเติบโต
George Hammond นักเศรษฐศาสตร์แห่ง University of Arizona ให้เหตุผลเกี่ยวกับการเติบโตของการจ้างงานในแอริโซนาว่า ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการจัดการเกี่ยวกับมาตรการควบคุมโควิด-19
“แอริโซนากลับมาสู่จุดพีคสุดของการจ้างงานได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากก่อนหน้านี้การจ้างงานไม่ได้ถดถอยมากเท่ารัฐอื่น ๆ และหนี่งในเหตุผลหลักก็เนื่องมากจากคำสั่งกักตัวอยู่บ้าน (stay-at-home order) ในแอริโซนาไม่ได้เคร่งครัดมากนัก”
ยิ่งไปกว่านั้น ค่าครองชีพที่ต่ำกว่า การเติบโตในหลายอุตสาหกรรมเช่น การคมนาคมขนส่ง การย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานของกลุ่มผู้ที่ทำงานระยะไกล (remote workers) และจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคาที่พักอาศัยสูงขึ้น เป็นปัจจัยหลักสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของเมืองฟีนิกซ์ โดยในปีที่แล้วค่าเช่าบ้านในฟีนิกซ์สูงขึ้นถึง 26%
ออสติน ศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งใหม่
เมืองออสตินกำลังเป็นผู้นำการเติบโตทางเศรษฐกิจในรัฐเท็กซัส เนื่องจากบริษัทอุตสาหกรรมเทคโนโลยีหลายแห่งที่เคยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียได้ย้ายสำนักงานใหญ่มาที่รัฐเท็กซัส เช่น Oracle Corp. และ Tesla Inc. ในเมืองออสติน ส่วน Hewlett Packard Enterprise Co. ย้ายสำนักงานใหญ่จาก Silicon Valley มาที่เมืองฮิวส์ตันในปี 2563 ซึ่งส่งผลให้ค่าเช่าบ้านในเมืองออสตินพุ่งสูงขึ้นถึง 40% และในเมืองอื่น ๆ เช่น ดัลลัส และฟอร์ทเวิร์ธ ก็สูงขึ้นถึง 29%
ทั้งนี้ ความหลากหลายของเศรษฐกิจในรัฐเท็กซัสไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เกิดขึ้นมาอย่างน้อย 10 ปีแล้ว โดยเมื่อ 10-12 ปีก่อน อุตสาหกรรมที่ผลักดันการจ้างงานในรัฐเท็กซัสคือก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบ แต่ในปัจจุบัน engine of growth กลับกลายเป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีมากขึ้น
Chris Beaman ก่อตั้งบริษัท Astronomic Inc. เพื่อให้บริการช่วยเหลือและส่งเสริม startup ในเมืองออสติน เมื่อปี 2563 กล่าวว่า ในเดือนแรกบริษัทจ้างพนักงานเพียงแค่คนเดียว แต่ต่อมาบริษัทเติบโตขึ้นทำให้ขณะนี้มีพนักงาน 50 คน และมีลูกค้า startup กว่า 250 แห่ง โดยนาย Beaman เสริมว่า ที่ผ่านมาได้พบผู้คนจำนวนมากที่เพิ่งย้ายมาออสติน เพื่อทำงานในบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ใน tech ecosystem ซึ่งตอนนี้ถือว่าปกติมากที่จะเจอคนที่เพิ่งย้ายมาออสตินเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนหรือ 2 เดือนก่อน เป็นการสร้างบรรยากาศทางสังคมที่น่าตื่นเต้นคล้าย ๆ กับวันแรกของการไปมหาวิทยาลัย
อ้างอิง
https://www.washingtonpost.com/business/2022/01/30/rent-inflation-housing/