ปัจจุบันมีคนจำนวนมากขึ้นเลือกที่จะหลีกจากสภาพการเป็นพนักงานบริษัทหรือพนักงานทั่วไป และเริ่มต้นเปิดบริษัทของตัวเอง และธุรกิจขนาดเล็กใหม่ ๆ ก็เปิดตัวเพิ่มขึ้นทุกวัน ซึ่งช่วยเพิ่มตำแหน่งงานให้กับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มากกว่า 12.9 ล้านตำแหน่งภายในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา
ยิ่งไปกว่านั้น ธุรกิจขนาดเล็กบางประเภทใช้ทรัพยากรเพียงเล็กน้อยหรือแม้แต่เงินลงทุนค่อนข้างต่ำในการเริ่มต้นธุรกิจ แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จและทำกำไรให้กับผู้ประกอบการได้ แม้ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำและภาวะเงินเฟ้อรุนแรงอย่างที่สหรัฐฯ กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้
ปี 2565 ที่ผ่านมาเป็นอีกปีที่ชาวอเมริกันยังคงต้องเผชิญกับโควิด-19 รวมไปถึงประสบกับปัญหาเศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้ออย่างหนักหน่วง ทำให้ธุรกิจหลายแห่งต้องปรับกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด และมีธุรกิจจำนวนมากต้องปิดตัวลงเป็นการถาวร เนื่องจากธุรกิจไม่มีผลกำไรและขาดทุนอย่างมหาศาล
อย่างไรก็ดี ในช่วงปี 2565 มีธุรกิจต่าง ๆ ที่ถูกพิจารณาว่าสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้ แม้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ โรคระบาด และสภาวะเงินเฟ้อ กระทั่งในปี 2566 นี้ ธุรกิจเหล่านั้นก็ยังคงเป็นธุรกิจที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะทำผลกำไรให้กับเจ้าของธุรกิจได้อย่างมากมาย
6 ธุรกิจขนาดเล็กที่เติบโตในปี 2565 และมีแนวโน้มไปในทิศทางบวกในปี 2566
1.) ธุรกิจที่เกี่ยวกับความยั่งยืน (Sustainability)
จากการวิจัยตลาดของ NYU Stern ในปี 2563 ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดเพื่อความยั่งยืนหรือมีความเกี่ยวข้องกับความยั่งยืน เติบโตเร็วกว่าผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนถึง 7.1 เท่า เนื่องจากปัจจุบันผู้คนจำนวนมากตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากพฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิต และสิ่งนี้ได้สะท้อนให้เห็นผ่านพฤติกรรมการจับจ่ายของพวกเขา
นอกจากนี้ จากการวิจัยของ GWI ระบุว่า ผู้บริโภค 52% ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์น้อยลงหรือรีไซเคิลได้ 48% ต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในราคาย่อมเยา และ 44% ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมากขึ้น
ดังนั้น ธุรกิจกลุ่มที่นำเสนอทางเลือกที่เกี่ยวกับความยั่งยืนจึงมีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จ เช่น กาแฟยี่ห้อ Green Mountain ที่มีวางขายตามร้านค้าทั่วไปในสหรัฐฯ ผลิตโดยบริษัทที่ใช้วิธีการที่ยั่งยืน เช่น การทำเกษตรอินทรีย์และแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรม (fair trade) บริษัทดังกล่าวสนับสนุนชาวไร่กาแฟทั่วโลกผ่านโครงการนวัตกรรมต่าง ๆ เช่น การปลูกต้นกาแฟ การจัดหาเงินทุนสำหรับชาวไร่กาแฟรายย่อย และช่วยฝึกอบรมชาวไร่กาแฟกว่า 2,500 คนในการทำเกษตรแบบ water-smart agricultural practices กาแฟ Green Mountain จึงเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีสีเขียว (Green Technology) ชั้นนำ ที่ถูกจับตามองและเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จในปี 2566
2.) ธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการดูแลสัตว์เลี้ยง (Pet Care Service)
ความรักในสัตว์เลี้ยงของชาวอเมริกันพุ่งสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา องค์กร American Society for the Prevention of Cruelty to Animals (ASPCA) พบว่า 1 ใน 5 ของกลุ่มคนที่สำรวจ ได้รับสุนัขหรือแมวมาเลี้ยงระหว่างเดือนมีนาคม 2563 ถึงพฤษภาคม 2564 นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงยังเพิ่มขึ้นจาก 97.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 103.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเดียวกันอีกด้วย และจากรายงานของ American Pet Products Association (APPA) ในปี 2565 ชาวอเมริกันใช้จ่ายถึง 136.8 พันล้านเหรียญกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา
เมื่อคนซื้อหรือรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยง นั่นหมายถึงความต้องการการดูแลที่เพิ่มขึ้น ทั้งการฝึกเดิน การให้อาหาร การทำความสะอาด และบริการดูแลสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ซึ่งมีธุรกิจมากมายที่สามารถช่วยให้บริการคนกลุ่มนี้ได้
ธุรกิจพาสุนัขเดินเล่นเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนที่รักสุนัขและเข้ากับสุนัขได้ดี ธุรกิจนี้กำหนดให้ผู้เดินสุนัขต้องไปที่บ้านของลูกค้าเพื่อพาสุนัขของลูกค้าออกไปเล่นหรือเดินเล่น ผู้เดินสุนัขไม่จำเป็นต้องมีใบรับรองพิเศษใด ๆ และเนื่องจากต้องใช้สายจูงของเจ้าของสุนัข จึงไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย เพียงแค่ซื้อของต่าง ๆ เช่น ขนมสุนัขและถุงขยะ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการดูแลสัตว์เลี้ยง เช่น ธุรกิจรับฝึกสุนัข ธุรกิจรับอาบน้ำ ตัดแต่งขนสุนัขและแมว เนื่องจากขนของสุนัขต้องการการดูแลอย่างสม่ำเสมอ การตัดแต่งขนจึงเป็นบริการที่มีความต้องการสูง การอาบน้ำ ตัดเล็บ และตัดขนสุนัขควรทำทุก 4-6 สัปดาห์สำหรับบางสายพันธุ์ ซึ่งหากไม่ต้องการเปิดเป็นร้าน ก็สามารถให้บริการเคลื่อนที่ไปที่บ้านลูกค้าได้เช่นกัน โดยอาจต้องลงทุนในอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับให้บริการ
ยิ่งไปกว่านั้น ปัจจุบันยังมีแอพพลิเคชั่นที่ให้บริการเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง เช่น Paway สำหรับพาสุนัขเดินเล่นรวมไปถึงให้ข้อมูลพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อช่วยให้สุนัขและเจ้าของได้เดินเล่นด้วยกันอย่างปลอดภัย และเชื่อมโยงผู้ใช้กับชุมชนผู้เลี้ยงสุนัขในละแวกใกล้เคียง รวมไปถึงกระจายการแจ้งเตือนสัตว์เลี้ยงที่สูญหายด้วย
3.) ธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพและฟิตเนส (Wellness and Fitness)
ตลาดเกี่ยวกับสุขภาพในสหรัฐฯ เป็นตลาดที่มั่นคงอยู่แล้ว โดยมีมูลค่ามากกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังคงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ดี การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายของผู้คนครั้งใหญ่
ผู้คนเข้ายิมที่น้อยลงและค้นพบข้อดีของการออกกำลังกายในบ้าน Acumen Research คาดว่าตลาดของฟิตเนสในบ้าน (Home Fitness) จะเติบโตและมีมูลค่าถึง 14.8 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2570
ผลิตภัณฑ์ของ BodyGym เป็นตัวอย่างหนึ่งของอุปกรณ์การออกกำลังการแบบ home fitness ที่ทำให้การออกกำลังกายที่บ้านมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่นด้านสุขภาพก็เป็นตลาดขนาดใหญ่เช่นกัน โดยมีการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นถึง 46% ทั่วโลกในช่วงต้นปี 2563 ตามรายงานของ World Economic Forum
Personal Trainer หรือ ผู้ฝึกสอนการออกกำลังกายส่วนบุคคล ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพและฟิตเนส ที่ช่วยให้ผู้คนบรรลุเป้าหมายในการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น ผู้ฝึกสอนจำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายและการสร้างแรงบันดาลใจ โดยทั่วไป personal trainer ควรมีใบรับรองในการประกอบอาชีพฝึกสอนการออกกำลังกาย ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 500 ถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ และผู้ฝึกสอนฟิตเนสหลายคนอาจมีปริญญาด้านกายภาพจากมหาวิทยาลัยด้วย
4.) ธุรกิจผู้ช่วยเสมือน/ผู้ช่วยออนไลน์ (Virtual Assistant)
ผู้บริหารธุรกิจจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ กำลังหันมาใช้ผู้ช่วยเสมือน (VAs) เพื่อช่วยงานทางธุรกิจบางอย่าง ซึ่งช่วยประหยัดเงินของบริษัทได้ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานประจำพร้อมสวัสดิการ การเป็นผู้ช่วยเสมือนมักได้รับมอบหมายให้ทำงานเพียงบางอย่าง เช่น การจัดการโซเชียลมีเดีย ประสานงานการเดินทาง และดูแลปฏิทิน โดยไม่มีข้อกำหนดหรือคุณสมบัติเบื้องต้น เพียงแค่ต้องเข้ากับคนอื่นได้ดี มีทักษะในการจัดการองค์กรที่ดี และมีคอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วเพื่อบริการลูกค้า
5.) ธุรกิจการปรับปรุงและตกแต่งบ้าน (Home Improvement)
คนจำนวนมากต้องการทำสิ่งใหม่ ๆ และปรับปรุงสภาพภายในบ้านให้รู้สึกสดชื่น และไม่จำเจอยู่เสมอ จึงทำให้ธุรกิจการปรับปรุงและตกแต่งบ้านยังคงเติบโตในทุกปี
ภายหลังสถานการณ์โรคระบาดผ่อนคลายลง ปีที่ผ่านมาชาวอเมริกันหลายล้านคนย้ายหรือซื้อบ้าน และจำนวนมากต้องการปรับปรุงบ้านหลังจากทำงานที่บ้านในสภาพเดิม ๆ มาเป็นเวลานาน รวมทั้งยังมีบ้านจำนวนมากที่ต้องการการปรับปรุงและต่อเติม โดย 59% ของบ้านในสหรัฐฯ ถูกสร้างขึ้นก่อนปี 2523 ถือว่าเป็นบ้านเก่าอายุหลายสิบปีที่ต้องการการปรับปรุงตกแต่งก่อนเข้าอยู่ นอกจากนี้ ชาวอเมริกันนิยมปรับปรุงบ้านทุก ๆ 3-5 ปี ส่งผลให้ตลาดปรับปรุงบ้านและตกแต่งภายในเฟื่องฟู บริการที่ให้ความช่วยเหลือทุกอย่างตั้งแต่การปรับปรุงสภาพบ้าน ไปจนถึงการตกแต่งภายในใหม่ รวมไปถึงโครการ DYI หรือ Do It Yourself กำลังประสบความสำเร็จอย่างมาก
จากสถิติในปี 2565 ชาวอเมริกัน 65.9% ถือครองกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 โดยตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา จำนวนธุรกิจเกี่ยวกับการปรับปรุงบ้านเพิ่มขึ้น 2.6% ในแต่ละปี และจนถึงปัจจุบันนี้ มีธุรกิจปรับปรุงบ้านถึง 588,806 แห่งในสหรัฐฯ
6.) ธุรกิจรับจ้างอิสระ (Freelance Support)
หลังจากที่โควิด-19 เกิดขึ้น คนอเมริกันจำนวนมากตกงาน และหลายคนตัดสินใจลาออก เพื่อหันมาทำอาชีพอิสระ (Freelance) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะคงอยู่ต่อไปอีกนาน ตามรายงานของ Zippia The Career Expert ในปี 2564 มีคนอเมริกันกว่า 58 ล้านคนทำงานอิสระ (Freelancers) และเพิ่มขึ้นถึง 70.4 ล้านคนในปี 2565 ที่ผ่านมา
ธุรกิจรับจ้างอิสระ โดยเฉพาะ freelance graphic designers และ freelance copy writers หรือ editors กำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ต้องนำเสนอข้อมูลให้ลูกค้าทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์และเนื้อหาจำเป็นต้องน่าสนใจ น่าดึงดูด และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่นิยมใช้บริการว่าจ้าง freelance graphic designers เพื่อมาจัดการออกแบบเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้น รวมทั้ง freelance copy writers และ freelance editors เพื่อจัดการการเขียนเนื้อหาและข้อมูลต่าง ๆ ในเว็บไซต์
การทำธุรกิจรับจ้างอิสระ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นมากนัก นอกจากคอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่ดี และทักษะด้านที่เกี่ยวข้อง การทำการตลาดสำหรับธุรกิจรับจ้างอิสระกลุ่มนี้ ทำได้ทั้งใน LinkedIn หรือกลุ่มต่าง ๆ ในโซเชียลมีเดีย (social media business groups)
อ้างอิง
https://www.americanpetproducts.org/press_industrytrends.asp#:~:text=Total%20U.S.%20Pet%20Industry%20Expenditures&text=In%202022%2C%20%24136.8%20billion%20was%20spent%20on%20our%20pets%20in%20the%20U.S.
https://ecotechdaily.net/the-top-10-green-tech-companies-to-watch-in-2023/
https://www.forbes.com/advisor/business/small-business-ideas/
https://www.statista.com/statistics/184902/homeownership-rate-in-the-us-since-2003/#:~:text=The%20homeownership%20rate%20in%20the,owners%20stood%20at%2065.9%20percent.
https://webflow.com/blog/business-ideas
https://www.zippia.com/advice/how-many-freelancers-in-the-us/#:~:text=36%25%20of%20the%20U.S.%20workforce,US%20increased%20by%20over%2020%25.
https://www.zippia.com/advice/home-improvement-industry-statistics/