กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ตัดสินใจขั้นต้นที่จะเรียกเก็บอัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดต่อสินค้ายางรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็ก เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2563 โดยไทย ไต้หวัน เวียดนามและเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีนี้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะมีการตรวจสอบอีกครั้งและจะตัดสินใจครั้งสุดท้ายวันที่ 14 พฤษภาคมนี้
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ประกาศเรียกเก็บอัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (Antidumping – AD) เบื้องต้น สินค้ายางรถยนต์ที่นำเข้าจากประเทศไทยที่ 13.25-22.20% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าที่ทางสหภาพแรงงานเหล็กสหรัฐฯ (United Steelworkers – USW) ได้ยื่นเรื่องเรียกร้องต่อกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศขอให้เรียกเก็บเอดียางรถยนต์ไทย 106-217% ทั้งนี้ อัตราเอดีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ทันที จนกว่าจะมีการพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2564
นอกจากไทยแล้ว สหรัฐฯ ยังได้มีการเรียกเก็บเอดีจากอีก 3 ประเทศ คือ เกาหลีใต้ 14-38% ไต้หวัน 52-98% และเวียดนาม 0-22% แต่อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะมีการประกาศอัตราภาษีใหม่อีกครั้ง นายกีรติอธิบายว่าผู้ส่งออกไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะพยายามชี้แจงทำความเข้าใจถึงการส่งออกยางรถยนต์ไปสหรัฐฯ ซึ่งมั่นใจว่าการชี้แจงไปครั้งนี้ก่อนประกาศใหม่จะทำให้ไทยเสียภาษีในอัตราที่ต่ำกว่าประเทศคู่แข่งได้
สภาอุตสาหกรรมแห่งประทศไทย ได้กล่าวว่า การเรียกเก็บภาษีเอดีของสหรัฐฯจะมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้ายางรถยนต์จากประเทศไทยไปสหรัฐฯ อย่างแน่นอน ซึ่งผู้ประกอบการที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากคือผู้ประกอบการแบรนด์ไทย รวมถึงผู้ประกอบการจากจีนที่ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ได้เรียกเก็บภาษีเอดีสินค้ายางรถยนต์จากประเทศจีน ทำให้หลายค่ายจากจีนย้ายฐานมาลงทุนในไทย
รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศประจำชิคาโก ประเทศสหรัฐฯ กล่าว่า ที่ผ่านมา USW ยื่นฟ้องให้รัฐบาลใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้านำเข้า หลังจากพบว่ามีการนำเข้าขยายตัวสูง 20% ในช่วงระหว่างปี 2560-2562 หรือมีจำนวนยางรถยนต์ 85.3 ล้านเส้น คิดเป็นมูลค่า 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการทุ่มตลาด
ซึ่งเฉพาะในปี 2562 สหรัฐฯ นำเข้ายางรถยนต์ส่วนบุคคลและยางรถบรรทุกขนาดเบามูลค่า 12,487.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.54% จากปี 2561 โดยมีไทยเป็นแหล่งนำเข้าสำคัญ มีส่วนแบ่งตลาด 20.76% หรือมีมูลค่านำเข้า 2,592.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยางรถยนต์ที่สหรัฐฯ นำเข้าจากไทยเป็นยางรถยนต์ส่วนบุคคล มูลค่า 1,422.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.27% และยางรถบรรทุกขนาดเบา มูลค่า 1,169.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 47.40%
โดยเเผนขั้นต้นที่จะใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ายางรถยนต์จากสี่ประเทศดังกล่าว มาจากการพิจารณาของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ที่ว่า ธุรกิจผลิตยางรถยนต์ของสหรัฐฯ ถูกทุ่มตลาดด้วยสินค้าราคาต่ำอย่างไม่เป็นธรรมจากประเทศที่ถูกกล่าวหา
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า ไทยส่งออกสินค้าจากอุตสาหกรรมยานยนต์มาสหรัฐฯ มูลค่าเกือบสองพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี พ.ศ. 2562 โดยอุตสาหกรรมดังกล่าวมีการลงทุนหลักๆ มาจากบริษัทญี่ปุ่นและสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศจัดเก็บภาษีตอบโต้การอุดหนุนของรัฐบาลต่อยางรถยนต์ที่นำเข้าจากเวียดนาม โดยจะเรียกเก็บในอัตรา 6.23-10.08% ซึ่งการดำเนินการของสหรัฐฯ ในครั้งนั้นนับเป็นการใช้มาตรการดังกล่าวเป็นครั้งแรกเพื่อตอบโต้รัฐบาลต่างชาติที่จงใจลดค่าเงินเพื่อเอื้อต่อการส่งออกสินค้า โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า เวียดนามจงใจลดค่าเงินดองของเวียนนามให้อ่อนค่าเกินจริงในปีที่แล้วเพื่อหวังผลทางการค้า