เทรนด์การใช้ AI ในธุรกิจ ปี 2566

ในโลกปัจจุบัน แทบไม่มีใครไม่รู้จัก Artificial Intelligence (AI) ซึ่งสิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึงเกี่ยวกับ AI คือ การพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อเลียนแบบความสามารถด้านต่าง ๆ ของมนุษย์ และนำมาใช้อำนวยความสะดวกในการทำงานและใช้ชีวิต ซึ่งในธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ เราได้เริ่มเห็นการนำ AI มาใช้ประโยชน์มากขึ้นเรื่อย ๆ

AI หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่าปัญญาประดิษฐ์ เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science) ที่ออกแบบมาเพื่อทำความเข้าใจและจัดเก็บความอัจฉริยะของมนุษย์ (Human Intelligence) ไปจนถึงเลียนแบบความสามารถของมนุษย์ ซึ่งรวมถึงการทำงาน (task) ต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วง และมีความก้าวหน้าถึงขนาดที่สามารถประมวลภาษาของมนุษย์ และแสดงการรู้จำเสียงพูด (Speech recognition) ได้ ทำให้ปัจจุบัน AI กลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการทำงานซ้ำซ้อนที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับมนุษย์ การเข้าถึงข้อมูลที่มีรายละเอียดมาก ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และการประมวลผลชุดข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อพัฒนาระบบการคาดการณ์ต่าง ๆ สำหรับแผนงานในอนาคต

AI ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ จนได้กลายเป็นทรัพยากรอันมีค่าสำหรับธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันธุรกิจต่าง ๆ หันมาใช้ AI อย่างหลากหลาย เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่ายในองค์กร และช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น

จากข้อมูลวิจัยโดย IBM พบว่า 35% ของบริษัทต่าง ๆ มีการใช้ AI ในการทำธุรกิจแล้ว และประมาณ 42% อยู่ในช่วงสำรวจตรวจสอบเกี่ยวกับ AI นอกจากนี้ ข้อมูลวิจัยจาก Deloitte และ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด พบว่า 25% ของธุรกิจขนาดเล็กกำลังใช้ AI ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เช่น แชทบอท (Chatbot) การวิเคราะห์ในเชิงคาดการณ์ (Predictive Analytics) และระบบอัตโนมัติทางการตลาด (Marketing Automation)

Forbes Advisor ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่ให้คำแนะนำทางการเงิน ได้สำรวจเจ้าของธุรกิจ 600 รายที่ใช้หรือวางแผนที่จะใช้ AI ในธุรกิจ ผลลัพธ์ที่ได้เผยให้เห็นงานด้านต่าง ๆ ที่สามารถนำ AI เข้ามาใช้ประโยชน์ได้ เช่น ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) การจัดการการทุจริตฉ้อโกง (Fraud Management) การผลิตเนื้อหาและการสนับสนุนลูกค้า (Content Production and Customer Support) รวมถึงการใช้แชทบอทที่เว็บไซต์ต่าง ๆ นำมาใช้กันมากขึ้น

การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในธุรกิจในสหรัฐฯ

จากการสำรวจของ Forbes Advisor เจ้าของธุรกิจนำ AI มาใช้ หรือวางแผนจะใช้ AI เพื่อการบริการลูกค้ามากที่สุด โดยสูงถึง 56% รองลงมาคือ การจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์และการทุจริตฉ้อโกง ซึ่งมีสูงถึง 51%

นอกจากนี้ ยังมีการใช้ AI ในด้านอื่นๆ ที่โดดเด่นเช่นกัน ได้แก่ การเป็นผู้ช่วยส่วนตัวแบบดิจิทัล (47%) การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (46%) การจัดการสินค้าคงคลัง (40%) การผลิตเนื้อหา (35%) การให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ (33%) การทำบัญชี (30%) การปฏิบัติงานภายใต้ห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain operations) (30%) การสรรหาและคัดเลือกบุคลากร (26%) และการแบ่งกลุ่มลูกค้า/ผู้ชม (24%)

สถิติวิธีการใช้ AI ในการทำธุรกิจ โดย Forbes Advisor

เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่คาดหวังว่า AI จะเป็นอย่างไร

เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่คิดว่า AI จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของตน ผลสำรวจจาก Forbes Advisor ระบุว่า 64% ของผู้ตอบแบบสอบถามคาดหวังว่า AI จะช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์กับลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ในขณะที่ 60% คาดหวังว่า AI จะช่วยผลักดันการเติบโตของยอดขาย

นอกจากนี้ ราว 50% คาดหวังว่า AI จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และช่วยลด response time (ระยะเวลาที่ใช้ในการตอบกลับคำขอรับบริการ) และราว 40% มองว่า AI จะช่วยหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด ช่วยในการตัดสินใจ และทำให้กระบวนการทำงานคล่องตัวขึ้น (streamline)

สถิติความคาดหวังต่อการใช้ AI ของเจ้าของธุรกิจ โดย Forbes Advisor

การใช้ ChatGPT ในธุรกิจ

เมื่อไม่นานมานี้ AI chatbot อัจฉริยะที่เรียกว่า ChatGPT ซึ่งผลิตโดยสตาร์ทอัพชื่อ OpenAI ได้สร้างความสั่นสะเทือนและถูกกล่าวถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ เนื่องจากสามารถประมวลผลและแสดงข้อมูลได้มีประสิทธิภาพ จนบางครั้งแยกไม่ออกว่า เป็นผลงานของคอมพิวเตอร์หรือมนุษย์ จนสามารถนำมาทดแทนการใช้คนทำงานได้ในหลาย ๆ ด้าน

การสำรวจเจ้าของธุรกิจโดย Forbes Advisor เกี่ยวกับ ChatGPT พบว่า ส่วนใหญ่เชื่อว่า ChatGPT จะส่งผลดีต่อการทำธุรกิจ โดย 97% เชื่อว่า มีอย่างน้อยหนึ่งแง่มุมของการใช้ ChatGPT ที่จะช่วยพัฒนาปรับปรุงธุรกิจได้ และ 74% คาดหวังว่า ChatGPT จะช่วยอำนวยความสะดวกในการตอบกลับลูกค้าผ่านทางบริการ Chatbot

นอกจากนี้ มากกว่าครึ่งหนึ่งคาดหวังว่าจะใช้ ChatGPT สำหรับการสรุปข้อมูล และปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจ และกว่า 40% คาดการณ์ว่า ChatGPT จะช่วยในการสื่อสารระหว่างเพื่อนร่วมงาน เช่น การร่างอีเมล์ เป็นต้น การแปลข้อมูล การสร้างสรรเนื้อหา (content) ในหลากหลายภาษา และการแก้ไขข้อผิดพลาดในการเขียนโค้ด

สถิติความคาดหวังของการใช้ ChatGPT ในธุรกิจต่าง ๆ โดย Forbes Advisor

AI กำลังมีความสำคัญมากขึ้นในแวดวงธุรกิจสหรัฐฯ ผลการสำรวจบ่งชี้ว่า เจ้าของธุรกิจต่างกำลังนำ AI ไปใช้หรือกำลังพิจารณาอย่างเร่งด่วนเพื่อนำไปใช้ในด้านต่าง ๆ ทั้งการบริการลูกค้า การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) และความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงการพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าผ่านบริการส่วนบุคคล การส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที และการโฆษณาที่ปรับให้เหมาะสมและตอบโจทย์ของลูกค้า นอกจากนี้ AI ยังช่วยปรับปรุงกระบวนการภายใน เช่น การรวบรวมข้อมูล กระบวนการทำงานอัตโนมัติ และงาน Search Engine Optimize (SEO) หรือ กระบวนการทำการตลาดผ่าน Search Engine ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ ส่วนผู้ผลิตและพัฒนา AI นับวันก็ยิ่งจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งธุรกิจต่าง ๆ ย่อมต้องติดตามและปรับตัวให้ทัน ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในการพัฒนาองค์กรและสร้างความสามารถในการแข่งขันในปัจจุบันที่น่าติดตามอย่างยิ่ง

อ้างอิง

https://www.businessdit.com/ai-in-business-statistics/

https://www.forbes.com/advisor/business/software/ai-in-business/

https://www.foxnews.com/tech/what-is-ai-artificial-intelligence

485 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top