ข่าวเด่นประจำสัปดาห์จากสหรัฐอเมริกา (Weekly News from USA)
โอกาสตลาดสำหรับสินค้าเสื้อผ้าผู้หญิงขนาดใหญ่พิเศษ
ปัจจุบันผู้บริโภคสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงที่มีขนาดรูปร่างใหญ่พิเศษ (Plus – Size) หรือผู้หญิงที่สวมใส่ เสื้อผ้าตั้งแต่ขนาด 14 ขึ้นไปมักจะประสบปัญหาในการหาซื้อหาเสื้อผ้าแฟชั่นเนื่องจากผู้จำหน่ายสินค้าแฟชั่นปลีก ส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคกลุ่มนี้ ซึ่งนับเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างมาก จากข้อมูลพบว่า ตลาดผู้บริโภค สินค้าเสื้อผ้าผู้หญิงขนาดใหญ่พิเศษในสหรัฐฯ มีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7.2 แสนล้านบาท) อีกทั้ง ยังมีโอกาสในการขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต ข้อมูลรายงานการสำรวจยอดจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงขนาดใหญ่พิเศษในสหรัฐฯ ประจำปี (Annual U.S. Sales of Woman’s Plus – Size Apparel) โดยบริษัท NPD Group ผู้สำรวจข้อมูลทาง การตลาดในหสรัฐฯ พบว่า ยอดจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงขนาดใหญ่พิเศษในสหรัฐฯ หรือที่เรียกกัน โดยทั่วไปว่า “Misses” ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากเดิมมูลค่าทั้งสิ้น 1.74 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.26 แสนล้านบาท) ในปี 2556 เป็นมูลค่า 2.04 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7.34 แสนล้านบาท) ในปี 2559 Mr. Marshal Cohen นักวิเคราะห์บริษัท NPD Group กล่าวว่า ปริมาณความต้องการบริโภคสินค้า
เสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงขนาดใหญ่พิเศษในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญกระตุ้นให้ยอดจ าหน่ายสินค้าดังกล่าว เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สภาวะการจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับผู้หญิงขนาดใหญ่พิเศษผ่านทางร้านค้าปลีกโดยทั่วไปยัง ค่อนข้างผันผวน เนื่องจากผู้จำหน่ายสินค้าแฟชั่นปลีกส่วนใหญ่ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้บริโภคอย่างจริงจังมี รายการสินค้าให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้เลือกซื้อไม่หลากหลาย นอกจากนี้ ผู้จำหน่ายสินค้าแฟชั่นหลายรายในตลาดยังเชื่อ ว่าการวางจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับผู้หญิงขนาดใหญ่พิเศษจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์แบรนด์ได้ซึ่ง เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
ดังนั้น จึงทำให้ผู้บริโภคหลายรายเปลี่ยนไปซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางการจำหน่าย อื่นแทน Mr. James Rhee ต าแหน่งประธานกรรมการบริหารสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงขนาดใหญ่พิเศษผ่าน ช่องทางออนไลน์แบรนด์Ashley Stewart กล่าวว่าปัจจุบันผู้บริโภคผู้หญิงที่มีรูปร่างขนาดพิเศษเลือกซื้อสินค้า แฟชั่นผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากมีรายการสินค้าให้เลือกหลากหลาย อีกทั้ง ยังมีปริมาณสินค้าให้เลือก ค่อนข้างสม่ าเสมอ โดยปัจจัยดังกล่าวสนับสนุนให้ยอดจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯ ขยายตัวมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ ผ่านมา ข้อมูลจาก Gwynnie Bee แบรนด์สินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับผู้หญิงขนาดใหญ่พิเศษผ่านช่องทางออนไลน์ รายงานว่า กลุ่มผู้บริโภคผู้หญิงที่มีรูปร่างขนาดใหญ่พิเศษในปัจจุบันมีความต้องการบริโภคสินค้าแฟชั่นที่มีการ ออกแบบและใช้สีสันทันสมัยเช่นเดียวกันกับกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มอื่น Ms. Linda Heasley ประธานกรรมการบริหารแบรนด์ Lane Bryant สินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับผู้หญิง ขนาดใหญ่พิเศษกล่าวว่า บริษัทฯ เพิ่งเปิดตัวสายผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าออกกำลังกายสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้หญิงขนาดใหญ่ พิเศษเพื่อรองรับปริมาณความต้องการบริโภคที่ขยายตัวมากขึ้นในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามพบว่า ผู้จำหน่ายสินค้า เสื้อผ้าออกกำลังกายรายใหญ่ในตลาด ได้แก่ Nike และ Under Amour ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคกลุ่มนี้ มากนัก ห้าง J.C. Penny ผู้จำหน่ายสินค้าปลีกรายใหญ่ได้ประกาศเดินหน้าท าตลาดสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าส าหรับ ผู้หญิงขนาดใหญ่พิเศษเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยได้เปิดตัวสายผลิตภัณฑ์ใหม่ชื่อ “Boutique+” ร่วมกับ Ms. Ashley Nell Tipton นักออกแบบเสื้อผ้าชื่อดังเพื่อจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับผู้หญิงขนาดใหญ่พิเศษ โดยเฉพาะ โดยช่วงแรกจะวางจำหน่ายสินค้าใน 500 สาขาทั่วสหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป
Ms. Siiri Dougherty ตัวแทนจาก J.C. Penny กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคผู้หญิงขนาดใหญ่พิเศษมี ความมั่นใจและต้องการที่จะแต่งตัวตามแฟชั่นเหมือนผู้บริโภคกลุ่มอื่น โดยห้างฯ สามารถเพิ่มยอดจำหน่ายสินค้า แฟชั่นสำหรับผู้หญิงขนาดใหญ่พิเศษได้มากในช่วงการทดลองวางจำหน่ายสินค้าในตลาดก่อนหน้านี้
ยอดจำหน่ายสินค้าปลีกสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2559
หลังจากที่ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายในไตรมาสที่ 1 ในไตรมาสที่ 2 ผู้บริโภคสหรัฐฯ เพิ่มกำลังในการซื้อ รถยนต์ และสินค้าอื่นๆ ท าให้ยอดจำหน่ายสินค้าปลีกสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบปี เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดจำหน่ายสินค้าปลีก สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2 ห้างสรรพสินค้าสหรัฐฯ เช่น Macy’s และ Nordstrom กล่าวว่า ได้ประสบปัญหา ยอดจำหน่ายชะลอตัวในช่วงไตรมาสที่ 1 ทำให้ต้องปรับลดยอดผลกำไรรายปีของห้างฯ เมื่อเดือนเมษายน 2559 ยอดจำหน่ายสินค้าปลีกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2558 โดย ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 หลังจากปรับตัวลดลงร้อยละ 0.3 ในเดือนมีนาคม 2559 ยอดค้าปลีกที่ไม่รวมยอดค้า ปลีกรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และร้านอาหาร เดือนเมษายน 2559 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 เทียบกับเดือน มีนาคม 2559 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเดือนมีนาคม 2559 ยอดค้าปลีกที่ไม่รวมยอดค้าปลีกรถยนต์ (core retail sales) มีความสอดคล้อง กับการใช้จ่ายของผู้บริโภคของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายสินค้าปลีกและยอดค้าปลีกที่ไม่รวมยอดค้าปลีกรถยนต์ของเดือน เมษายน 2559 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 และร้อยละ 0.3 ตามลำดับ
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงาน ดัชนีราคาผู้ผลิต (producer price index) เดือนเมษายน 2559 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เที่ยบกับเดือนมีนาคม 2559 อยู่ที่ร้อยละ 0.1 ซึ่งในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาดัชนีราคาผู้ผลิต คงที่อยู่ที่ร้อยละ 0.1
Mr. Anthony Karydakis หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บริษัท Miller Tabak นครนิวยอร์ก กล่าวว่า ข้อมูล การเพิ่มขึ้นต่างๆ นี้อาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน 2559 นี้ อย่างไรก็ตามต้องรอดูอัตราการจ้างงานประกอบการพิจารณาด้วย เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ ได้รับแรงกระตุ้นจากความเชื่อมั่น ของผู้บริโภคสหรัฐฯ การจ้างงาน อัตราค่าจ้างที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้การใช้จ่าย ของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 11 เดือน
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัย Michigan รายงานว่า เดือนพฤษภาคม 2559 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 อยู่ที่ 95.8 และเป็นอัตราเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 โดยดัชนีความเชื่อมั่น ของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกชนชั้น แต่กลุ่มที่เพิ่มมากที่สุดเป็นกลุ่มคนฐานะยากจนและกลุ่มคนอายุน้อย เมื่อเดือนเมษายน 2559 ยอดค้าปลีกที่ไม่รวมยอดค้าปลีกรถยนต์ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ธนาคารกลางเมือง Atlanta ปรับข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้นเป็น 2.8 และผลิตภัณฑ์มวลรวม ภายในประเทศทั้งปีอยู่ที่ 2.2 ที่ผ่านมายอดจำหน่ายสินค้าปลีกสหรัฐฯ ซบเซา สืบเนื่องมาจากมีการจ้างงานจำนวนมาก แต่อัตราค่าจ้าง คงที่ รวมถึงเงินออมที่ได้มาจากราคาน้ำมันที่ถูกในรอบหนึ่งปีครึ่งต้องหมดไปกับอัตราค่าเช่าและอัตราค่า รักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้น ห้าง Macy’s กล่าวว่า ไตรมาสที่ 1 ยอดจำหน่ายลดลงร้อยละ 5.6 และคาดว่าในรอบปียอดจำหน่ายจะ ลดลงอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3 – 4 ส่วนห้าง Nordstrom กล่าวว่า ไตรมาสที่ 1 ยอดจำหน่ายลดลงร้อยละ 1.7 ทำให้ห้างต้องปรับลดเงินปันผลจาก 3.10 – 3.35 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น มาอยู่ที่ 2.50 – 2.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ หุ้น
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า เดือนเมษายน 2559 ยอดจำหน่ายสินค้าปลีกสหรัฐฯ ปรับตัว เพิ่มขึ้นทุกอุตสาหกรรม ยกเว้นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้างและอุปกรณ์ท าสวน ยอดจำหน่าย รถยนต์เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 13 เดือน และยอดจำหน่ายของร้านจำหน่ายเสื้อผ้าเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558 ผู้จำหน่ายสินค้าปลีกออนไลน์ รายงานว่า ยอดจำหน่ายเดือนเมษายน 2559 เพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2557 ซึ่งผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับ กีฬา งานอดิเรก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มมากขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ร้านค้าจำหน่าย อุปกรณ์ก่อสร้างและอุปกรณ์ทำสวน รายงานยอดจำหน่ายที่แย่ที่สุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558
Department of International Trade Promotion, North America , พ, พ.ค. 18, 2559
by นายพงษ์ระพี ซื่อสัตย์บุญ-สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองไมอามี