กลุ่มประมงกุ้งต้องการให้สหรัฐฯ เก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดต่อไป
สมาคมแปรรูปกุ้งสหรัฐฯ มีความต้องให้คณะกรรมมาธิการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้ากุ้งนำเข้าจากแหล่งนำเข้า 5 ประเทศ คือ บราซิล เวียดนาม อินเดีย จีน และ ไทย ต่อไปอีก เนื่องจากกุ้งนำเข้าจากแหล่งดังกล่าว ยังส่งผลเสียหายให้แก่อุตสาหกรรมประมงกุ้งสหรัฐ ต่อเนื่อง
ประธานสมาคมอาหารทะเลแห่งรัฐหลุยส์เซียน่า ให้ความเห็นว่า การยกเลิกการเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดจะเป็นผลให้ตลาดสหรัฐฯ จะท่วมท้นไปด้วยกุ้งนำเข้าจากต่างประเทศในทางกลับกัน กลุ่มผู้นำตลาดค้าปลีก ได้แก่ ห้างคอสโก้ พับลิคซุปเปอร์มาร์เก็ต และ บริษัทเพอร์ฟอร์มมานซ์กรุ๊ฟ ซึ่งทั้งสามรายมีปริมาณนำเข้ากุ้งรวมประมาณ 200 ล้านปอนด์ ให้ความเห็นว่า ภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดควรจะยกเลิกได้แล้ว แม้ว่าภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดยังคงมีผลบังคับ ร้านค้าปลีกยังคงต้องนำเข้ากุ้งต่อไป ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนนำเข้ากุ้งอีกประมาณ 10-15 เซนต์ต่อปอนด์ และปริมาณกุ้งนำเข้าจากแหล่งนำเข้าเอเซียยังคงเพิ่มอย่างต่อเนื่อง และท่วมท้นตลาดเช่นเดิม ทั้งนี้ เนื่องจากค่าเงินดอลล่าร์ที่แข็งค่าได้เพิ่มอำนาจการซื้อและนำเข้าสินค้าให้ผู้นำเข้าสมาคมแปรรูปกุ้งสหรัฐฯ
ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจบริการอาหาร และอินสติตัวชั่นหันมาใช้กุ้งเลี้ยงประเทศเพิ่มขึ้นเป็นลำดับแทนกุ้งจับจากอ่าวเม็กซิโกเนื่องจากผู้บริโภคบางกลุ่มยินดีที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อบริโภคกุ้งผลิตในประเทศ
นโยบายการพัฒนาประเทศแบบคุ้มครองตัวเองของประธานาธิบดีทรัมป์ จะมีผลเชิงบวก ซึ่งจะสนับสนุนและคุ้มครองอุตสาหกรรมประมงสหรัฐฯ ปัจจุบันมีการเลี้ยงกุ้งในประเทศเพื่อการค้าขยายตัวในระดับสูง แต่ปริมาณยังต่ำ รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการสนับสนุนการผลิตและเพิ่มการจ้างงานในประเทศ ดังนั้น จึงคาดว่า สหรัฐฯ จะไม่ยกเลิกภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้ากุ้งนำเข้าจากแหล่งนำเข้า 5 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย
ขอขอบคุณข่าวจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
