รู้จักระเบียบฉลากโภชนาการสำหรับสินค้าอาหารเข้าสหรัฐฯ

องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (Food and Drug Administration: FDA) เช่นเดียวกับ อย. ในประเทศไทย มีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้บริโภคด้วยการกำกับดูแลการติดฉลากโภชนาการบนผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตระหนักถึงสิ่งที่บริโภคเข้าไป เมื่อต้นปี 2563 อย.สหรัฐฯ  ได้จัดทำแนวปฏิบัติเรื่องการติดฉลากโภชนาการสำหรับผู้ผลิต เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบด้านการติดฉลากโภชนาการที่ได้ปรับปรุงใหม่ (Food Labeling: Revision of the Nutrition and Supplement Facts Labels) ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2559

ผู้ผลิตที่มียอดขายอาหารปีละ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบดังกล่าวของ อย.สหรัฐฯ อย่างจริงจังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 (ได้ขยายเวลาจากเดิมตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2561) และผู้ผลิตที่มียอดขายอาหารน้อยกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ต้องปฏิบัติตามระเบียบฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป (ได้ขยายเวลาจากเดิมตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2562) อย.สหรัฐฯ ไม่บังคับใช้กฎระเบียบดังกล่าวกับผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยที่มียอดขายรวมต่อปีหรือมียอดขายให้กับผู้บริโภคไม่เกิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

ภายใต้กฎระเบียบใหม่ อย.สหรัฐฯ  ได้ปรับเปลี่ยนการแสดงข้อมูลโภชนาการบนฉลากที่ผู้ประกอบการต้องใส่ใจปฏิบัติตามหลายเรื่อง

สารอาหารรายการใหม่ที่ต้องระบุไว้ในฉลาก

  • น้ำตาลที่เติม (Added Sugars) ฉลากต้องระบุน้ำตาลที่เติมแยกออกจากน้ำตาลทั้งหมด (Total Sugars) ซึ่งน้ำตาลที่เติมมีนิยามครอบคลุมถึงปริมาณน้ำตาลที่เติมเข้าไประหว่างกระบวนการผลิตหรือบรรจุ รวมถึงน้ำตาลหรือน้ำผึ้งที่เติมลงไปเพิ่มเติมจากปริมาณความหวานธรรมชาติของน้ำผักและผลไม้ปรกติ
  • วิตามินดี เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อสุขภาพ (“public health significance”) และจำเป็นต้องมีข้อมูลแสดงบนฉลาก ระเบียบใหม่ของ อย.สหรัฐฯ บังคับให้แสดงข้อมูลไว้บนฉลากทั้งปริมาณกรัมและร้อยละของประมาณที่แนะนำต่อวัน (Percent Daily Value) ก่อนการแสดงปริมาณแคลเซียม
  • โพแทสเซียม เช่นเดียวกับวิตามินดี อย.สหรัฐฯ ได้จัดให้โพแทสเซียมเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อสุขภาพ (“public health significance”) และจำเป็นต้องมีข้อมูลแสดงบนฉลาก ระเบียบใหม่ของ อย.สหรัฐฯ บังคับให้แสดงโพแทสเซียมไว้บนฉลากทั้งปริมาณกรัมและร้อยละของประมาณที่แนะนำต่อวัน (Percent Daily Value)

สารอาหารรายการใหม่ที่ อย.สหรัฐฯ อนุญาตให้ระบุไว้ในฉลากตามความสมัครใจ

  • ฟลูออไรด์ ผู้ประกอบการสามารถเลือกที่จะระบุหรือไม่ระบุก็ได้ว่าอาหารนั้น ๆ มีฟลูออไรด์ตามธรรมชาติ

หรือมีการเติมฟลูออไรด์เข้าไป แต่หากมีการอวดอ้างสรรพคุณ อย.สหรัฐฯ บังคับให้ระบุข้อมูลฟลูออไรด์ด้วย หากต้องการระบุ ถ้าปริมาณของฟลูออไรด์น้อยกว่า 0.1 มิลลิกรัม ต้องระบุว่ามีปริมาณฟลูออไรด์เป็นศูนย์

 สารอาหารที่ไม่ให้ปรากฏในฉลากอีกต่อไป

  • แคลอรีจากไขมัน อย.สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้ระบุไว้ในฉลากอีกต่อไป จากเดิมที่เคยบังคับให้ใส่ไว้ในฉลาก
  • คาร์โบไฮเดรตอื่น ๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงบนฉลากอีกต่อไป จากเดิมที่เคยให้ใส่ไว้ได้ตามความสมัครใจ

หากอยากนำผลิตภัณฑ์อาหารเข้าตลาดสหรัฐฯ โดยไม่ติดขัด ผู้ประกอบการต้องติดตามพัฒนาการกฎระเบียบฉลากโภชนาการที่ อย.สหรัฐฯ กำหนดอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติให้สอดคล้องกับข้อกำหนดดังกล่าว   แนวปฏิบัติด้านฉลากโภชนาการที่ อย.สหรัฐฯ แจงไว้ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมาก สามารถสืบค้นและ  ดาวน์โหลดฉบับเต็มได้ที่นี่

แหล่งข้อมูลจาก U.S. Food and Drug Administration (www.fda.gov)

4,057 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top