นายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน พร้อมด้วยข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เข้าร่วมงาน SelectUSA Investment Summit 2023 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2566 ที่โรงแรม Gaylord National Resort and Convention Center เมือง National Harbor รัฐ Maryland
นายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน และทีมประเทศไทยได้เดินทางไปเยี่ยมชมบริษัท Eastland Food Corporation ณ เมือง Jessup รัฐแมริแลนด์ โดยมีนาย Oscar Mekhaya ประธานบริษัทให้การต้อนรับ
สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีธุรกิจสตาร์ทอัพมากที่สุดในโลก เนื่องจากมีระบบนิเวศที่พร้อมในทุก ๆ ด้านมากที่สุดแห่งหนึ่ง รวมไปถึงทั้งสถาบันการศึกษาขั้นสูง ทรัพยากรมนุษย์ แหล่งเงินทุน อุปสงค์ตลาดขนาดใหญ่ และองค์กรที่พร้อมจะสนับสนุนการเติบโตของสตาร์ทอัพ การที่จะเริ่มธุรกิจสตาร์ทอัพในสหรัฐฯ ไม่ใช่เรื่องยากมากนัก อย่างไรก็ดี ผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูล สถิติ รวมไปถึงข้อมูลของอุตสหกรรมสตาร์ทอัพต่างๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจสตาร์ทอัพในสหรัฐฯ ได้มากขึ้น
ปัจจุบันนี้ มีบริษัทสตาร์ทอัพเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในสหรัฐฯ และทั่วโลก ผู้ก่อตั้งจำนวนไม่น้อยไม่เพียงต้องการสร้างรายได้ แต่ต้องการพลิกโฉมอุตสาหกรรม ผู้ก่อตั้งบางคนมีความฝันว่าธุรกิจสตาร์ทอัพของตนอาจมีส่วนเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจ โดยการสร้างสินค้าและบริการใหม่ ๆ รวมไปถึงการใช้นวัตกรรมในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสินค้าและบริการแบบเดิม การทำความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจสตาร์ทอัพ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่อยากจะเริ่มธุรกิจแบบนี้ในอนาคต
สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชาวอเมริกันลดลง ในที่สุดอัตราเงินเฟ้อจะเป็นตัวเพิ่มค่าครองชีพโดยรวม ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นจนถึงจุดที่น่ากังวล ก็จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ แต่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบหลายประการต่อสภาวะตลาดและเศรษฐกิจ ซึ่งบางส่วนเป็นผลบวก และเป็นไปเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อในระยะยาว แต่บางส่วนอาจมีความเสี่ยงที่ยากจะแบกรับเช่นกัน
สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคชาวอเมริกันในแง่ที่ทำให้กำลังซื้อลดลงรวมไปถึงราคาสินค้าและบริการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อล่าสุดจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 เพิ่มขึ้น 8.6% จากเดือนพฤษภาคมของปีที่แล้วซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษ
หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบ New Normal ซึ่งไม่เพียงเกิดขึ้นกับผู้คนทั่วไปเท่านั้น ทั้งในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ธุรกิจต่างๆ ต้องหาหนทางจัดการกับการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้น เทคโนโลยี Automation ถูกนำมาใช้มากขึ้นเพื่อช่วยจัดการการคล่องตัวในช่วงที่แรงงานมนุษย์ขาดแคลนหลังเกิดการแพร่ระบาด และยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานต่างๆ อีกด้วย
อาหารทดแทนเนื้อสัตว์ หรือ Plant-Based Food กำลังเป็นที่นิยมและมีกระแสมาแรงในปี 2565 เนื่องจากผู้บริโภคหันมารักษาสุขภาพและใส่ใจในเรื่องการเลือกรับประทานอาหารมากขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาและสนับสนุนเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านอาหารจากนายทุนรายใหญ่ ซึ่งส่งผลให้อาหารทดแทนเนื้อสัตว์ในปัจจุบันนี้หาซื้อได้ง่ายขึ้นและมีตัวเลือกมากขึ้น
แม้ว่ายังมีการระบาดของโควิด-19 แต่เศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ กลับส่อแววไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยตลาดแรงงานเริ่มขยายตัวมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น และการการยื่นขอสวัสดิการสำหรับคนว่างงานลดลง สิ่งที่ยังคงต้องจับตามองต่อไปคือแนวโน้มเงินเฟ้อจากสภาวะการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งสถานการณ์แพร่ระบาดและความเป็นไปได้ในการกลายพันธุ์ของโควิด-19 ในอนาคต
รัฐเท็กซัส แอริโซนา ยูทาห์ และไอดาโฮ กำลังฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากการศูนย์เสียรายได้และการจ้างงานในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเห็นได้ชัดเจนจากการเติบโตของการจ้างงาน การเพิ่มขึ้นของการทำบัญชีเงินเดือน การเปลี่ยนแปลงของจำนวนประชากรภายในรัฐ และการย้ายฐานการผลิตของหลายบริษัทใหญ่ไปยังรัฐเหล่านี้ ที่ส่งผลให้แรงงานย้ายตามไปด้วยเช่นกัน
หอการค้าสหรัฐฯ จัดสัมมนาปี 2565 ภายใต้แนวคิด The Competition for the Future โดยจะผลักดันการแข่งขันออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ การแข่งขันในตลาด การแข่งขันด้านทักษะแรงงาน การแข่งขันเพื่อขึ้นเป็นผู้นำระดับโลก และการแข่งขันทางความคิด โดยมีผู้มีชื่อเสียงเข้าร่วมงานสัมมนาครั้งนี้ อาทิ สว. Susan Collins (Maine-R) สว. Jeanne Shaheen (New Hampshire-D) Alber Bourla (CEO ของบริษัท Pfizer) และ Carol B. Tomé (CEO ของบริษัท UPS)
คาดกันว่าในปี 2565 ผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะเผชิญกับค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้น การซื้อของออนไลน์ก็ยังเป็นที่นิยมเนื่องจากโควิด-19ที่ยังคงแพร่ระบาดและผู้คนส่วนมากยังทำงานจากบ้านได้ พฤติกรรมของผู้บริโภคในปีนี้มีแนวโน้มว่าจะเปลี่ยนไป เนื่องมาจากค่าใช้จ่ายที่จะสูงขึ้นและปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนสินค้าที่ยังคงมีอยู่ต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2564
บันทึกความสำเร็จของเชฟลลิตา สุขสำราญ เจ้าของร้านอาหารไทยในอเมริกา ที่นอกจากจะประสบความสำเร็จในธุรกิจร้านอาหารแล้ว ยังได้หันมาทำธุรกิจโรงแรมที่ตกแต่งแบบไทยอย่างสวยงามอยู่ในไร่องุ่นเมืองนาปา รัฐแคลิฟอร์เนีย และประสบความสำเร็จดังที่หวังไว้
สหรัฐฯกำลังเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่รวมไปถึงสายพันธุ์ Omicron ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว รัฐบาลสหรัฐฯไม่มีนโยบายปิดประเทศและยังสนับสนุนให้ภาคธุรกิจดำเนินต่อไป ท่ามกลางการแพร่ระบาดรอบใหม่นี้ CDC ออกประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการลดวันกักตัวสำหรับผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการและผู้ที่มีอาการดีขึ้น การแพร่ระบาดรอบนี้ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและปัญหาการขาดแคลนคนงาน อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าการชะลอตัวทางเศรษฐกิจน่าจะเป็นเพียงในระยะสั้น แต่ยังคงต้องจับตาดูต่อไป
ร้านดอกไม้ของคนไทยในย่านธุรกิจของเมืองบอสตัน ที่มีจุดเริ่มต้นจากความชอบดอกไม้ จนนำมาสู่ร้านดอกไม้ในฝันที่มีคำจำกัดความว่า “ร้านเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่ด้วยคุณภาพและความอบอุ่น”
บันทึกความสำเร็จของคุณมิ้นต์ ดลพร ทองเนียม เจ้าของร้านอาหารไทยสามแห่งในนิวยอร์ก ที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางธุรกิจร้านอาหารตั้งแต่อายุยังน้อย
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือนมิถุนายน 2564 ราคาน้ำมันถั่วเหลืองในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากภาคอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพ นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันถั่วเหลืองที่ Chicago Board of Trade (CBOT) มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบ 70% ในปีนี้ โดยปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ของสัปดาห์เดียวกันนั้นที่เกือบ 72 เซ็นต์ต่อปอนด์ ซึ่งตัวเลขนี้เกินจุดสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นในปี 2551
องค์การสหประชาชาติ (UN) คาดการณ์ว่า การฟื้นตัวอย่างเกินความคาดหมายของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นจุดหมายสำคัญอันดับต้นๆ ของโลกสำหรับการลงทุนในต่างประเทศในปีนี้และปีหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากแนวโน้มที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง รวมทั้งจากแผนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของรัฐบาล
มื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2564 นาย Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ได้แถลงการณ์ถึงภาพรวมเศรษฐกิจและนโยบายด้านการเงินของสหรัฐฯ
ในช่วงปี 2019-2020 ตลาดค้าปลีกอาหารที่มีส่วนประกอบหลักจากพืช (Plant-based food) ในสหรัฐฯ เติบโตขึ้นกว่า 43% แซงหน้าการเติบโตของยอดขายอาหารโดยรวมทั้งประเทศถึง 9 เท่าตัว และมีมูลค่าตลาดรวมสูงกว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
